เวียดนาม สั่งปิดโรงเรียน-สนามบิน รับมือพายุโนรู

พร้อมเตรียมแผนอพยพผู้คนกว่า 860,000 คน ในพื้นที่ตอนกลาง
ศูนย์พยากรณ์อุทก อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเวียดนาม ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า พายุไต้ฝุ่นโนรูในทะเลจีนใต้ บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะพาราเซล เพิ่มความแรงลมใกล้จุดศูนย์กลางจากเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.65) 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นมาเป็น183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตั้งแต่เช้าวันนี้ (27ก.ย.65) เวลา 07.00 น. โดยเคลื่อนตัวประชิดชายฝั่งทางตอนกลางของเวียดนาม
ศูนย์พยากรณ์ฯ คาดว่า พายุจะยังคงเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก มุ่งหน้าเวียดนามด้วยความเร็ว 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความแรงลม โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา พายุอยู่ห่าง 170 กิโลเมตร จากเมืองดานัง และห่าง 120 กิโลเมตร จากจังหวัดกว๋างนาม ซึ่งอยู่ใกล้กันทางตอนใต้ลงมา และยังเป็นที่ตั้งของหาดฮอยอัน และหาดเชาได๋
ทั้งนี้ คาดว่าพายุจะขึ้นฝั่งประมาณ 04.00 น. พรุ่งนี้ (28 ก.ย. 65) ที่จังหวัดกว๋างจิ , เถื่อเทียน-เว้ , กว๋างนาม , กว๋างหงาย และเมืองดานัง ทางตอนกลางของเวียดนาม โดยมีความแรงลมอยู่ที่ 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นจะเคลื่อนลงทางตอนใต้เล็กน้อย โดยจะอ่อนตัวเป็นพายุดีเปรสชัน และกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำขณะพัดเข้าประเทศไทย คืนวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย. 65
เพื่อรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทางการเวียดนามได้สั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่ภาคกลาง รวมถึงสนามบิน 5 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางของเวียดนาม โดยสนามบินจูลายในจังหวัดกว๋างนาม ปิดตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันนี้ ไปจนถึงเวลา 07.00 น. ส่วนสนามบินอื่นๆ อีก 4 แห่ง ปิดตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงบ่ายวันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย สนามบินดานัง จังหวัดดานัง , สนามบินฟู้บ่าย จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ , สนามบินฟู้แคต จังหวัดบิ่ญดิ่ญ และสนามบินเมืองเปลกู จังหวัดซาลาย
นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มีง จีง ของวัยดนาม ได้สั่งการให้ท้องถิ่นต่างๆ เฝ้าระวังพายุและยกเลิกการประชุมที่ไม่จำเป็น ห้ามออกเรือ และอนุญาตให้นักเรียนอยู่กับบ้าน ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นของจังหวัดภาคกลาง ตั้งแต่จังหวัดกว๋างบิ่ง ไปจนถึง จังหวัดบิ่งทวน เตรียมอพยพผู้คนกว่า 860,000 คน
พายุโนรู ถือเป็นพายุลูกที่ 4 ที่เข้าสู่ทะเลจีนใต้ในปีนี้ มีแนวโน้มว่าจะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดจนถึงตอนนี้ โดยมีความคล้ายคลึงกับพายุช้างสาร ที่พัดถล่มภาคกลางของเวียดนามในเดือนกันยายน 2549 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายในเวลานั้น 76 คน บ้านเรือนประมาณ 350,000 หลัง และเรือ 1,000 ลำ จมน้ำ ได้รับความเสียหาย