เปิดเหตุผลแรงงานไทย ขอทำงานต่อในอิสราเอล นายจ้าง ยืนยัน หากรู้สึกปลอดภัยก็ไม่บังคับ
วันนี้ (20 ต.ค. 66) The Reporters ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายแรงงาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กระทรวงแรงงาน ไปเยี่ยมแรงงานไทยที่ยังทำงานในฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่งเป็นหนึ่งในฟาร์มของสหกรณ์การเกษตรที่มีแรงงานไทยอยู่รวมกันกว่า 350 คน
ฟาร์มแห่งนี้เป็นฟาร์มมะเขือเทศ มีแรงงานไทย 20 คน กำลังทำงาน ในการวางเชือกเพื่อให้ต้นมะเขือเทศขึ้นสูงออกผลผลิตได้มาก
แรงงานไทยคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ทำงานจะครบ 2 ปีในเดือนหน้า ที่ผ่านมาพอจะเก็บเงินให้ทางบ้านใช้ ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจกลับไทย เพราะใจก็อยากอยู่ต่อ เพราะกลับบ้านไม่รู้ทำอะไร แต่ทางบ้านอยากให้กลับเพราะกลัว แต่ตนเองก็บอกเขาว่าอยู่นี่ปลอดภัย
ส่วนแรงงานอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองทำงานมา 8 เดือน ยังขอดูสถานการณ์ เพราะที่ทำงานไม่มีเหตุระเบิด และนายจ้างไม่ได้บังคับ แต่ต้องการคนทำงาน เลยจะขอทำงานให้ได้มากที่สุดก่อน
ขณะที่แรงงานชายอีกคน อายุ 26 ปี มาจากนครพนม มาทำงาน 1 ปีแล้ว เหตุจากทางบ้านยากจน เงินไม่พอใช้ จึงตัดสินใจมาทำงาน ตอนมากู้ยืมจากพี่สาว แต่ใช้หนี้หมดไปแล้วตั้งแต่ทำงาน 4-5 เดือนแรกก็ใช้หนี้ 150,000 บาท ส่วนตัวได้เงินเดือนเดือนละ 50,000-60,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายก็พอได้เหลือเก็บ ได้ส่งให้พ่อแม่ใช้ พอเกิดเหตุการณ์แม่ก็โทรให้กลับบ้านทุกวัน ตนก็บอกว่าขอให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะแถวนี้ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก เป็นไปได้อยากทำให้ครบสัญญา ซึ่งนายจ้างดูแลดี จึงต้องอดทน สู้และนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
ส่วนอีกรายมาจากเชียงใหม่ อายุ 25 ปีมาทำงานได้ 11 เดือน 10 วัน ตั้งแต่มาทำงานได้ใช้หนี้หมดภายในเวลา 3 เดือน จากที่กู้ยืมมา 100,000 บาท การทำงานตอนนี้ก็เก็บเงินอย่างเดียว เนื่องจากบ้านฐานะอยากจน มาอิสราเอล เพราะอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น คิดว่าจะทำงานพอได้ซื้อรถยนต์ และก่อนมาก็ทราบว่ามีเหตุระเบิด แต่ตัดสินใจมาเพราะคนอื่นมาได้ ตนเองก็มาได้
แรงงานอีกราย ยอมรับว่าจากเหตุครั้งนี้รุนแรง ก็รู้กลัว แต่อยู่ไกลจากที่เกิดเหตุ ขณะที่บ้านก็เป็นห่วง แม่บอกให้กลับบ้าน แต่บอกกับแม่ว่า อยากอยู่ดูสถานการณ์นิดหน่อย ถ้ารุนแรงมากก็กลับ แต่ขอทำเรื่อยๆ จนครบสัญญา ส่วนตัวอยากบอกครอบครัวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงมาก จะดูแลตัวเองให้ดี
ส่วนแรงงานอีกรายทำงานมา 3 ปี 10 เดือน ทำงานอยู่ที่นี่นานที่สุด เหตุผลที่ต้องทำงานต่อ เพราะเราก็ต้องการเงิน ที่ผ่านมาได้เก็บเงินใช้หนี้ และเก็บเงินให้ได้เป็นเงินทุนกลับบ้าน ขณะทำงานอยู่ที่นี่ยังปกติ อย่างข่าวที่ออกไปมีแต่รุนแรง ซึ่งบางพื้นที่เท่านั้น ตนเองอยู่ที่นี่มีเสียงเตือนภัย แต่ไม่บ่อย เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านใหญ่ ข้างแคมป์ก็มีหลุมหลบภัยหลายที่ ห่างกันประมาณ 100 เมตร ก็ยังรู้สึกปลอดภัย
ด้านนายจ้างชาวอิสราเอล เปิดเผยวว่า ทำฟาร์มแห่งนี้มากว่า 30 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นพ่อ พวกเขาขอบคุณแรงงานไทยที่ยังทำงานต่อ และเป็นแรงงานคุณภาพที่พวกเขาต้องขอบคุณอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบมาถึงที่นี่ แต่หากแรงงานไม่มั่นใจในความปลอดภัยอยากเดินทางกลับเขาก็ไม่ได้ห้าม แต่อย่างที่เห็นว่าบริเวณนี้ปลอดภัย จึงอยากให้ทำงานต่อ ถ้าใครอยากกลับเขาก็พร้อมที่จะซื้อตั๋วให้ รวมถึงถ้าอยากกลับมาก็พร้อมซื้อตั๋วให้กลับมาอย่างแน่นอน
ก่อนที่นายจ้างจะพามา The Reporters มาดูหลุมหลบภัย ซึ่งตั้งอยูในที่พักขยะ แต่มีทางลงไปหลบภัย แรงงานบอกว่ายังไม่เคยมาเพราะไม่เคยมีระเบิดรุนแรง จึงไม่เคยลงมาดู ภายในเป็นห้องใหญ่ ที่สร้างด้วยซีเมนต์เสริมเหล็กหนา มีไฟส่องสว่าง มีน้ำดื่ม มีห้องน้ำ มีบันไดทางออกด้วย แรงงานกลุ่มนี้ไม่เคยมา เพราะไม่มีเหตุ จึงเหมือนมาซักซ้อม เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลอิสราเอล ให้ความสนใจความปลอดภัยของทุกคน ซึ่งสภาพภายในหลุมหลบภัย ยังไม่มีใครได้เข้ามาใช้ รวมถึงคนอิสราเอล
ขณะที่แรงงานไทย ที่ทำงานร่วมกันมีการใช้รถอังการา เป็นรถไถที่บรรทุกคนงาน กลับไปยังที่พักพร้อมกัน ทุกคนบอกว่าทำงานในอิสราเอลลำบากแต่ได้ค่าตอบแทนที่ดี จึงตั้งใจทำเพื่อครอบครัว