POLITICS

EXCLUSIVE : เฉลิมชัย ยัน รมต.เกษตร ทุกคนน่ารัก อย่ามองมาเฟีย ตั้งใจงานแรกจะแก้ราคาพืชผลเกษตร และรับมือการขาดแคลนน้ำจากภาวะฝนทิ้งช่วง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เปิดใจกับ The Reporters หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นกระทรวงใหญ่ที่มีรัฐมนตรีช่วยถึง 3 คน และล้วนเป็นผู้ทรงอิทธิพลจากทุกพรรคการเมือง

“พี่ว่า ทุกคนน่ารัก คุยกันรู้เรื่องมีความตั้งใจเดียวกัน ชาดา ก็โทรมาหาบอกว่าพร้อมช่วยกันทำงาน ธรรมนัส ก็เจอกัน ก็พูดคุยกันว่าหลังการถวายสัตย์คงได้ทำงานกันเต็มที่”

นายเฉลิมชัย ตอบคำถามที่ถูกมองว่ากระทรวงเกษตรรวมแหล่งผู้มีอิทธิพล จะคุมได้ไหม แค่ยังไม่เริ่มทำงานก็มีข่าวแย่งห้องทำงานกันแล้ว

“ผมมั่นใจว่าทุกคน ทำงานด้วยกันได้ ถ้าเราคิดว่าเรามาช่วยจะแก้ปัญหาให้บ้านเมืองตามที่ตั้งใจกันไว้ ส่วนเรื่อง คุณสมบัติเมื่อผ่านขั้นตอนไปแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าจะมีการตรวจสอบ ก็สามารถ ยื่นได้ เชื่อมั่นว่าแต่ละท่านรู้อยู่แล้ว”

สำหรับงานแรกของ กระทรวงเกษตร ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องการเข้ามาทำงานในกระทรวงนี้ ก็ตั้งใจจะให้นโยบายปรักันราคาพืชผลเกษตร ได้เป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งต้องประสานงานกระทรวงพาณิชย์ ด้วย และมีการบรรจุเรื่องนี้ไปในนโยบายของรัฐบาลแล้ว

“นโยบายสำคัญที่จะทำคือ การบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือภาวะฝนทิ้งช่วง จะทำให้ขาดแคลนน้ำ ต้องประเมินสถานการณ์ บริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพเพื่อประชาชน “

นายเฉลิมชัย ย้ำถึงนโยบายเร่งด่วน ส่วนเรื่องประมง 
ต้องแก้ปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

ยอมรับว่างานมีความท้าทาย แต่เมื่ออาสามาแล้ว ผมก็ตั้งใจทำให้ดี เเพราะปัญหาที่ต้องแก้ให้ได้คือเรื่องปากท้องประชาชน

ส่วนเรื่องการทำงานร่วมกับ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่มาจาก 3 พรรคการเมือง มั่นใจว่าไม่มีปัญหา แม้จะถูกมองว่าเป็นแหล่งรวมบุคคลผู้ทรงอิทธิพล ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ที่มีบทบาทเด่นในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ และมีคดีมากมายที่ถูกตรวจสอบ ส่วน น.ส.มนัญญา ไทเศรษฐ์​ น้องสาว นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอุทัยธานี ก็เป็นแกนนำคนสำคัญมาจากพรรคภูมิใจไทย และนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ก็มีชื่อชั้นของความเก๋าทางการเมือง

แต่สำหรับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ก็ถือเป็นผู้มีบารมีทางการเมืองคนหนึ่ง โดยเฉพาะกับบทบาทล่าสุด ที่ก้าวมาเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นตำแหน่งสำคัญทางการเมือง ในการนำพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางเสียงคัดค้าน และสวนทางกับคำประกาศของนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ต้องลาออกจาก หัวหน้าพรรค และส.ส. เพราะไม่อยากทำงานการเมืองที่สวนทางกับคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

ความท้าทายของนายเฉลิมชัย จึงมีทั้งในพรรคและนอกพรรค จึงปฏิเสธไม่ได้ว่านับจากนี้เส้นทางการเมืองของนายเฉลิมชัย จะเป็นบุคคลที่ถูกจับตามากคนหนึ่ง

สำหรับนายเฉลิมชัย ชื่อเล่น ต่อ อายุ 54 ปี เป็นชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนพรหมานุสรณ์จังหวัดเพชรบุรี ระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายและการวางแผน มหาวิทยาลัยเกริก

นายเฉลิมชัย เริ่มเล่นการเมืองตั้งท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2533 และเริ่มลงสมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2540 จนได้เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุมพื้นที่ภาคกลาง และในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหลังการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์ จากผลการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 นายเฉลิมชัย ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สมัยที่ 2 เคียงคู่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend