POLITICS

‘สุวัจน์’ มั่นใจเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล อุบเตรียมย้ายซบ ‘เพื่อไทย’

‘สุวัจน์’ มั่นใจเสถียรภาพพรรคร่วม แต่ไม่ประมาท เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เชื่อประสบการณ์ ‘ทักษิณ’ ในฐานะพ่อเป็นประโยชน์ ส่วนครอบงำหรือไม่ขึ้นอยู่กับกฎหมาย อุบเตรียมย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ บอกสัมพันธ์ยังราบรื่น

วันนี้ (30 ธ.ค. 67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเมืองในปี 2568 ว่า รัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่างจากรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะมีการปรับโครงสร้างรัฐบาลใหม่ เสียงของรัฐบาลมีความเข้มแข็ง และมีเสถียรภาพมากขึ้น หากดูบรรยากาศของพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ แม้จะมีความเห็นต่างในบางเรื่อง แต่ไม่ใช่บรรยากาศของความขัดแย้ง หรือแตกต่างกันอย่างรุนแรง

ดังนั้นปี 2568 ยังมั่นใจในการบริหารงานของรัฐบาล ส่วนความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ควรเจอกันบ่อย ๆ เกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในการทำงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีอายุน้อย แต่มีมนุษย์สัมพันธ์ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาล จึงสามารถประสานความเข้าใจในพรรคร่วมรัฐบาลได้ดี ด้วยเสถียรภาพและเสียงของรัฐบาล ภายใต้การประสานงานของนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

“แต่เสียงนอกสภา ข้อเรียกร้องต่าง ๆ หรือบรรยากาศในการทำงานหรือการสร้างการยอมรับจากประชาชน ก็เป็นเรื่องของผลงานที่ต้องอาศัยการชี้แจงทำความเข้าใจ รัฐบาลต้องบริหารทั้งเสถียรภาพในสภาและนอกสภา เพื่อดูแลสถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศให้เรียบร้อย ปี 2568 ไม่น่ามีอะไร รัฐบาลสามารถบริหารประเทศไปได้เพราะเสถียรภาพยังดูดี” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีปัญหาปะทุหรือไม่ เพราะมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาด้วย นายสุวัจน์ กล่าวว่า เดือน พ.ค.68นี้ ก็จะครบครึ่งเทอมแล้ว หนังครึ่งหลังจะเร็วกว่าครึ่งแรก อาจจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราต้องไม่ประมาท ต้องมอนิเตอร์สถานการณ์ต่าง ๆ ให้ดี

ส่วนตัวแปรอย่างนายทักษิณ ที่จะเข้ามาเป็นจุดที่สร้างความสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์จะแย่ลงหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์นายทักษิณกับนายกรัฐมนตรีก็เหมือนพ่อกับลูก ซึ่งพ่อก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนลูกก็เป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ความห่วงใยที่ท่านมีต่อลูกหรือประสบการณ์ที่มี ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี หรือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยนายทักษิณ ก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ก็สืบเนื่องมา จึงเป็นการให้ข้อแนะนำให้ข้อมูลจากประสบการณ์ ต้องยอมรับว่านายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีและมีประสบการณ์เรื่องเศรษฐกิจการต่างประเทศภาคธุรกิจจึงเป็นเรื่องของการให้ข้อแนะนำของผู้ที่ได้รับข้อมูลจะใช้ประโยชน์อย่างไร ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำ

ขณะที่ปัจจัยนอกพรรค เช่น MOU 2544 ข้อเรียกร้อง ความเดือดร้อนต่าง ๆ จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลในระบบประชาธิปไตยทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นดีที่สุดรัฐบาลต้องระมัดระวัง พยายามชี้แจงและทำความเข้าใจกับข้อเรียกร้องต่าง ๆ ให้เกิดความเข้าใจ เพื่อจะอยู่ได้อย่างเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าอายุรัฐบาลจะไม่สั้นเหมือนที่หลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์กันใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่างที่บอกการเมืองต้องเข้าใจว่า ตามฟอร์มเสถียรภาพไม่ใช่ปัญหา แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ ต้องไม่ประมาท

สิ่งที่นายทักษิณ แสดงวิสัยทัศน์และรัฐบาลมาทำต่อ เหมือนข้อแนะนำจากทุกฝ่าย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลคิดอย่างไร ฟังข้อมูลด้านไหน จะเอาอะไรไปทำ อะไรเห็นด้วยก็ทำ ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทำ ส่วนจะกลายเป็นเหตุให้ศาลมองว่าครอบงำ แทรกแซงหรือไม่ ต้องว่ากันไปตามกลไกของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องมีความระมัดระวัง เพราะมีการร้องเรียน

อย่างไรก็ตามที่ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชวนไปอยู่พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจอย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญทางการเมือง ตนเองก็ไม่ใช่คนเดียวที่จะตอบได้ กรรมการบริหารต้องพูดคุยกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เรื่องนี้ยังคุยกัน แต่เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยก็ราบรื่นด้วยดี บรรยากาศดี ไม่มีอะไร ถ้าจะมีตอนนั้นค่อยคุยกัน

ในช่วงท้ายนายสุวัจน์ ได้อวยพรปีใหม่ ว่า เนื่องในโอกาสวาระขึ้นปีใหม่ 2568 ทราบดีว่าพี่น้องประชาชน มีความห่วงใยในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆ ในรอบปี เพราะฉะนั้นในโอกาสปีใหม่นี้ ตนเองขออารธณาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในบ้านเมือง ได้โปรดประทานพรให้บ้านเมืองของเรา เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย พ้นวิกฤติเศรษฐกิจ และให้พี่น้องประชาชนทุกท่าน มีเศรษฐกิจที่ดี มีแต่ความสุข คิดหวังสิ่งใด ให้ได้ดั่งใจนึก ขอให้สุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายและเล่นกีฬาทุกท่าน

Related Posts

Send this to a friend