กลาโหม หารือร่วม กมธ.ความมั่นคง ‘รมว.กลาโหม‘ น้อมรับข้อเสนอไปปฏิบัติ
กลาโหม หารือร่วม กมธ.ความมั่นคง ‘รมว.กลาโหม‘ น้อมรับข้อเสนอไปปฏิบัติ ย้ำ กวดขันเรื่องไอโอ ด้าน ’โรม‘ หยอดคำหวาน เชื่อมือ ’พี่สุทิน‘ เลิกเกณฑ์ทหาร-ยกเลิกกฎหมายพิเศษ 3 จชต.ปี 70
วันนี้ (30 ต.ค. 66) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวร่วมกันภายหลังหารืองานด้านความมั่นคง ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน
นายสุทิน ระบุว่าเป็นโอกาสดี กมธ.ความมั่นคง สภาผู้แทนราษฎรได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล วันนี้มีผู้แทนของเหล่าทัพมาด้วย การพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯ ได้มาสอบถามภารกิจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่มีผลกระทบกับประชาชน
ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปหลายประเด็นรวมถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดย กมธ.ความมั่นคงฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะว่ากระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพควรจะปรับอะไร ซึ่งเราก็รับได้ และถือว่าเป็นประโยชน์ และจะหาแนวทางในการปฏิบัติต่อไป โดยรวมถือว่า เป็นวันดีๆ
ด้าน นายรังสิมันต์ กล่าวว่าต้องขอบคุณ รมว.กลาโหม ซึ่งเราได้ประโยชน์ และมีหลายคำถามทั้งเรื่องที่ดินของกองทัพ และได้รับคำอธิบายที่ดีและรมว.กลาโหม ก็ให้ทิศทางที่ชัดเจน สุดท้ายก็ต้องไปใช้วันแมพเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่มาก่อน จะได้เอกสารสิทธิ์ ที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่มาก่อน ได้สิทธิ์การเช่าที่เป็นช่องทางในการทำมาหากินก็เห็นทิศทางที่ดี
ส่วนปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีความคิดเห็นในเรื่องของการใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งเราก็เข้าใจมากขึ้น ทางกองทัพอาจจะมีความรู้สึกว่ายังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษอยู่ แต่อย่างน้อยคำสัญญาในปี 2570 ในทุกๆ อำเภอต้องยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษถือเป็นเรื่องที่เรารอคอย
ส่วนเรื่องของปฏิบัติการไอโอนั้น ทางกองทัพก็ให้คำมั่นสัญญาโดยนายสุทินได้พูดเองว่าจะกวดขัน จะไม่ให้มีปฏิบัติการไอโอ ตนเองคิดว่านี่เป็นสัญญาณเชิงบวก
“ผมได้ฝากเรื่องไอโอไว้เป็นพิเศษ ที่ไม่อยากให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งทางคณะกรรมาธิการของเราหลายคน ที่มีประสบการณ์ของไอโอ เราก็พยายาม ที่จะอธิบายว่ามีผลกระทบอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายการแก้ปัญหาจริงๆ แล้ว จะได้ประมาณไหน ทางคณะกรรมาธิการเรา ก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่ก็ให้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นว่าจะต้องใช้ระยะเวลาโดยทันทีหรือไม่ ด้วยบรรยากาศคงไม่ขนาดนั้น แต่เมื่อผ่านไปซักระยะหนึ่ง เราก็คงไปติดตามในการทำงาน”
ทั้งนี้ตนเองไม่อยากจะพูดว่าการทำไอโอหนักขึ้นหรือเบาลง เพียงแต่ว่าเราเห็นการหยิบยกการพรีเซนต์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงมาว่าไม่ได้ด้อยค่าใคร ซึ่งเราก็คาดหวังว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจะเป็นในลักษณะการประชาสัมพันธ์เราเข้าใจ แต่ถ้าเป็นในลักษณะที่เป็นไอโอดำหรือไอโอเทา คือเป็นการด้อยค่าสร้างมลทินให้กับศัตรูทางการเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้ เราก็เลยฝากกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยท่าน ก็เลยรับปากกับเรา ว่าจะคุยกันในเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรือดำน้ำยังอยู่ในกระบวนการและมีข้อแลกเปลี่ยนและตนเองเข้าใจว่าทางกองทัพ เข้าใจความกังวลใจของสังคมต่อเรื่องนี้และวันนี้เราเห็นทิศทาง ที่ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา ซึ่งตนในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคง ได้เสนอว่า ภาคส่วนสังคมเข้าใจสุดท้ายในเรื่องของเรือดำน้ำ หากไม่ได้เครื่องยนต์ของเยอรมัน เราก็อาจจะใช้รูปแบบ หาอาวุธประเภทอื่นที่ไม่เกินกรอบวงเงินทดแทน
นายรังสิมันต์ ยังระบุอีกว่าทางกระทรวงกลาโหมยังยืนยันถึงความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความจำเป็นที่จะต้องมีในอนาคต ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้เพื่อ กมธ.ความมั่นคงได้เข้าใจมากขึ้น
ยอมรับอีกว่า เรื่องเรือดำน้ำที่ได้มาพูดคุยดังกล่าวนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่เข้ามา แต่เราก็ได้เสนอแนะไปแล้ว โดยทางนายสุทิน กล่าวว่า จะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นยังอยู่ในกระบวนการเจรจา
สำหรับการเกณฑ์ทหาร ได้เห็นทิศทางเชิงบวกว่ากองทัพต้องการที่จะลดจำนวนทหารเกณฑ์ ซึ่งในอนาคตเราคาดหวัง จะไม่มีการเกณฑ์ทหารอีกต่อไป แต่ความท้าทายสำคัญก็คือเรื่องความยั่งยืน ซึ่งต้องฝาก รมว.กลาโหม
“ผมเชื่อว่าพี่สุทินทำได้แน่นอน ซึ่งเราน่าจะมีความใกล้ชิดกันในเรื่องของทิศทางความมั่นคง ส่วนปัญหาอื่นๆเช่น ป่า ปัญหาเสียงดังของการซ้อมยิงของทหารเรือก็ฝากไว้กับพี่สุทินและกองทัพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป โดยภาพรวมทั้งหมดเราได้รับเกียรติจากกระทรวงกลาโหม โดยทางพี่สุทินเชิญผู้บริหารของเหล่าทัพต่างๆ มาด้วยถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราได้มีการพูดคุยกันต่อไป และในอนาคตข้างหน้าปัญหาชายแดนการค้ามนุษย์ต่างๆ ต้องหวังว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นจะนำไปสู่การสร้างช่องทางการสื่อสารรวดเร็วเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ประชาชน
“ผมต้องขออนุญาตใช้บริการกองทัพโทรหารวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไปแน่นอน เพราะผมมีเบอร์โทรส่วนตัวของพี่สุทินอยู่แล้ว”
ในขณะที่นายสุทินย้ำว่าได้สั่งให้รวบรวมเบอร์ของผู้แทนเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องกับงานด้านต่างๆ ให้กับ กมธ.ความมั่นคง เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการประสานงาน