‘พายัพ’ ชี้ ภายใน พปชร.แตกเป็นก๊กเหล่า เสี่ยงกระทบเสถียรภาพรัฐบาล
‘พายัพ’ ชี้ ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐแตกยับเป็นก๊กเป็นเหล่า เสี่ยงกระทบเสถียรภาพรัฐบาล
นายพายัพ ปั้นเกตุ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) กล่าวถึงกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวหา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผิดคำมั่นสัญญาจากการตัดพรรคพลังประชารัฐไม่ให้ร่วมรัฐบาล และอาจส่อผิดกฎหมาย ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า นายไพบูลย์ อาจจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เพราะ พรรรคเพื่อไทยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเคยชวนพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลเพื่อช่วยกันทำงานให้บ้านเมือง ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน แต่ไม่ได้ชวนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มาเป็นนายกรัฐมตรี เพราะนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกจากรัฐสภา คือ นายเศรฐา ทวีสิน ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการลงมติจากรัฐสภา ดังนั้นหาก พล.อ.ประวิตร อยากเป็นนายกรัฐมนตรีเองก็ต้องใจเย็นรอการเลือกตั้งครั้งหน้า พักรออยู่บ้านป่ารอยต่อ ชมนกชมไม้ไป รักษาสุขภาพให้ดี ให้แข็งแรงเอาไว้ มองโลกในแง่ดีเข้าใจว่าโอกาสข้างหน้ายังพอมี
นายพายัพ กล่าวว่านายไพบูลย์ควรแนะนำให้ พลเอกประวิตร ใช้เวลาระหว่างนี้ดูแลพรรคประชารัฐให้ สส.เป็นปึกแผ่นสามัคคีกันไว้ให้เหนียวแน่น ไม่ใช่กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง หัวหน้าพรรคอยากไปทำเนียบรัฐบาล ลูกน้องขอไปกระทรวงต่างๆ จนวุ่นวายไม่เป็นเอกภาพ และ พลเอกประวิตร ต้องทบทวนความจำตัวเองว่าเคยทำอะไรให้พรรคร่วมรัฐบาลและแกนนำพรรคเพื่อไทยให้หวาดระแวงวิตกกังวลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือเปล่า เช่น มติพรรคร่วมรัฐบาลให้ไปประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ไปประชุม
“ที่ผ่านมามีเสียงนินทาว่าอดีต สว. หรือคนที่มีตำแหน่งต่างๆ และมีความใกล้ชิดกับ พลเอกประวิตร พยายามที่จะปลดอดีตนายกฯเศรษฐาด้วย เรื่องนี้ พลเอกประวิตร ควรออกมาอธิบายชี้แจงให้ชัดเจนว่าเป็นความจริงหรือไม่”
นอกจากนี้นายไพบูลย์ควรไปบอก พลเอกประวิตร ให้เร่งพิจารณาแก้ไขปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตอนนี้มีอยู่ไม่รู้กี่กลุ่มกี่เหล่า การปล่อยให้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความสั่นคลอน ไม่มั่นคง อาจกระทบเสถียรภาพรัฐบาลที่นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
“ขณะนี้คนไทยกำลังมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็กำลังพุ่งขึ้นทุกวัน ราคาสินค้าเกษตรก็ขยับสูงขึ้นมาก แนวโน้มส่งออกก็ดี การลงทุนจากต่างประเทศจะดีมากขึ้น บรรยาการประเทศกำลังจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ หากหวังดีกับประเทศชาติจริงๆ ก็ควรลดความต้องการของตัวเองลงเพื่อส่วนรวมเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองบ้าง” นายพายัพ กล่าว
