พล.อ.ประยุทธ์เปิดใจ จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ผลักดันโครงการที่ได้ริเริ่มให้เสร็จสมบูรณ์
พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์เปิดใจ จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลผลักดันโครงการที่ได้ริเริ่มให้เสร็จสมบูรณ์
วันนี้ (30 ก.ย. 65) ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเสียงข้างมาก 6:3 เห็นว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 2560 เพราะ เริ่มเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 6 เม.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงยังเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ครบ 8 ปีตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นคำร้อง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า
“พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ
ผมขอแสดงความเคารพอย่างสูง ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน สำหรับกำลังใจและความปรารถนาดี ที่มอบให้ผมมาโดยตลอด
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสให้ผมได้พิจารณาและตระหนักมากขึ้นว่า ผมจะต้องใช้เวลาอันมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดของรัฐบาล ในการติดตามและผลักดันโครงการสำคัญต่างๆ มากมาย ที่ผมได้ริเริ่มเอาไว้ ให้เดินหน้าและเสร็จสมบูรณ์ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับบ้านเมือง และสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของเรา
โดยผมจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด และใช้ศักยภาพของผมอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นในภารกิจการพลิกโฉมประเทศ ตามกลยุทธ์ 3 แกน ที่ผมได้เคยกล่าวไว้ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
สำหรับเรื่องการเมือง และประเด็นต่างๆ รายวันนั้น ผมจะมอบให้เป็นหน้าที่ของท่านอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป
เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ตามกลยุทธ์ 3 แกน ก็คือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ ของประเทศให้เสร็จสมบูรณ์ – ทั้งถนน ทางรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ตลอดจนโครงการอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ในการสร้างอนาคตของประเทศ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับประชาชนทั่วประเทศในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำมาค้าขาย การเรียนรู้ และอื่นๆ ด้วยการเข้าถึงระบบออนไลน์ได้อย่างทั่วถึง
โครงการต่างๆ เหล่านั้น เป็นโครงการที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนริเริ่มและดำเนินการได้ ในสเกลที่ใหญ่และบูรณาการขนาดนี้ โดยผมได้เริ่มต้นโครงการต่างๆ ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไป จนบรรลุผลสำเร็จ และเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ดังนั้นแม้ว่าบางโครงการจะไปเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาของรัฐบาลอื่น ก็จะต้องสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย ไม่ติดขัด หรือมีอุปสรรคอันใด
เพราะโครงการต่างๆ เหล่านั้น มีความสำคัญอย่างที่สุด เป็นเครื่องรับประกันที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และเปิดโอกาสให้คนนับล้านๆ คน สามารถสร้างความรุ่งเรืองให้กับตัวเองได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความท้าทาย โครงการต่างๆ เหล่านั้น ยิ่งมีความสำคัญมากเป็นทวีคูณ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถพลิกฟื้นการทำมาหากินและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ในวิถีทางที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการค้าขายผลผลิตทางการเกษตรด้วยราคาที่สูงขึ้น การเปิดช่องทางการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ สำหรับสินค้าและบริการอื่นๆ การช่วยให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และในหลายๆ ประเทศ การลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์นั้น เป็นจุดพลิกผันสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศนั้นๆ และในทิศทางเดียวกัน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เรากำลังทำอยู่นี้ เสร็จสมบูรณ์ ก็จะสามารถพลิกโฉมประเทศไทย และนำพาประเทศของเรา ให้ก้าวไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของคนไทยทุกคน ในวันข้างหน้าสืบเนื่องไป
วันนี้…เราเดินหน้ามาไกลและถูกทิศทางแล้วครับ เราต้องช่วยกันทำให้เสร็จครับ”