หมอเปรมศักดิ์ ทวงญัตติน้ำท่วมเสนอแล้วแต่ไม่ได้บรรจุเข้าวาระ
หมอเปรมศักดิ์ ทวงญัตติน้ำท่วมเสนอแล้วแต่ไม่ได้บรรจุเข้าวาระ – ขออย่าลูกคุณช่างบล็อก หลังมีข่าวแว่วล็อกเก้าอี้ประธาน กมธ.สว.
วันนี้ (30 ส.ค. 67) นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนายเศรณี อนิลบล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงข่าวกรณีการยื่นญัตติขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤตอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ ต่อประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่าคาดการณ์ว่าญัตตินี้จะถูกบรรจุลงวาระไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าประธานวุฒิสภากลับบอกให้รอการพิจารณา จน 1 สัปดาห์ผ่านไปก็ยังไม่มีการบรรจุลงวาระในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ มีแต่เรื่องอื่นที่เสนอภายหลังทั้งนั้น จึงสงสัยว่าเหตุใดการวินิจฉัยเรื่องญัตติน้ำท่วมของตนเอง จึงเป็นปัญหามากมายขนาดนี้ ทั้งที่ประชาชนรอการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบครบวงจร
ญัตตินี้เป็นการระดมคนเข้ามาแก้ไขปัญหาใน 90 วัน ยิ่งช่วงสุญญากาศที่นายกรัฐมนตรียังไม่สามารถตั้งคณะรัฐมนตรีได้สำเร็จ และยังไม่สามารถแถลงนโยบายได้ คาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาอีกเกือบ 1 เดือน เราจะปล่อยให้ประชาชนอยู่ในบรรยากาศที่รอคอยการช่วยเหลือได้อย่างไร
ขอวิงวอนให้ประธานวุฒิสภาได้ทบทวนญัตตินี้ในการประชุมสัปดาห์หน้า เพราะไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใดจึงถูกญัตติอื่นแซงไป และไม่มีวาระการประชุมในสัปดาห์หน้า ในฐานะที่เคยทำงานในสภาฯ เห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก เพราะการวินิจฉัยว่าญัตติด่วนหรือไม่ด่วนเป็นเรื่องที่สามารถวินิจฉัยตามสามัญสำนึกได้อยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าการอภิปรายเรื่องน้ำท่วมจะส่งผลกระทบต่อท่านผู้บริหารกระทรวงใดเป็นพิเศษหรือไม่ ถึงต้องยับยั้งไม่ให้ญัตตินี้เข้าสู่การพิจารณา
นายเศรณี กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นนี้ เป็นปัญหาอุบัติภัยซ้ำซากเป็นเวลาหลายปี ไม่ว่ารัฐบาลไหน หรือหน่วยงานใดก็ไม่สามารถที่จะบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อน้ำท่วมแล้ว รัฐบาลก็เสียเงินเยียวยาซ่อมแซมถนนบ้านเรือน และจะเห็นภาพการตั้งโต๊ะบริจาคสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงต้องมีการชดเชยเงินให้กับพี่น้องเกษตรกรที่เสียหายจากภัยพิบัติเหล่านี้ ซึ่งคนมองว่ารัฐบาลยังขาดการบูรณาการในการเตรียมความพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จึงเสนอญัตตินี้ เราพยายามอย่างเต็มความสามารถแล้ว แต่ระบบรัฐสภายังไม่เดินไปข้างหน้า จึงอยากวิงวอนให้ผู้มีอำนาจช่วยพิจารณาวินิจฉัย
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิ ซึ่งได้พิจารณาวาระการปรับลดจำนวนคณะกรรมการเสร็จสิ้น และส่งเรื่องให้วุฒิสภาบรรจุลงวาระในสัปดาห์หน้าแล้ว ซึ่งที่สุดเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบตาม พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว. ที่เสนอให้เหลือ 21 คณะ จาก 28 คณะ ซึ่งก็ชนะไปอย่างไม่น่าเชื่อ
กติกาทั้งหมดนี้ บางคณะมีความซ้ำซ้อนกัน ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ด้วยซ้ำไป และ สว.ก็มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างฟิตเปรี๊ยะ เพราะมีการแปรญัตติที่ไม่เห็นด้วยกับ 27 คณะ ตนเองก็มีความรู้สึกเห็นใจสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสิ่งนี้เสมือนมีอะไรบางอย่างบอกมาว่า ต้องเอาตามนี้ ตนเองจึงค่อนข้างไม่สบายใจ เพราะตั้งแต่การคัดเลือก สว.ในทุกระดับมีการบล็อก และบล็อกมาจนกระทั่งจำนวนกรรมาธิการ
ตอนนี้มีข่าวแว่วว่าจะบล็อกคนเป็นประธานกรรมาธิการทั้งหมดด้วย ไม่ทราบว่าจะต้องใช้คำไหน แต่ขอใช้คำอย่างสุภาพว่าเป็นลูกคุณช่างบล็อก บล็อกได้บล็อกดี บล็อกจนทำให้คนที่มีความรู้ความสามารถ และความตั้งใจเป็นกรรมาธิการแทบจะหมดโอกาสที่จะเข้ามาทำงานอย่างจริงจัง ตนจึงคิดว่าถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ก็อยากขอให้ทบทวน และเห็นโอกาสคนที่อยากจะทำงานให้กับส่วนรวม โดยที่ไม่ถูกบล็อกบ้างได้หรือไม่ หรือถ้าจะบล็อก ก็บล็อกแค่ 15 คณะได้หรือไม่อีก ให้อีก 6 คณะ ที่เหลือให้คนที่เสียงข้างมากไม่สนใจได้ทำงาน เพราะถ้าตั้งขึ้นมาแล้ว ก็ยากที่จะมีการเปลี่ยนแปลง อยู่จนครบ 5 ปี ตามวาระของวุฒิสภา
นพ.เปรมศักดิ์ ห่วงภาพลักษณ์ของวุฒิสภาจะเสียหาย เพราะตอนนี้ก็เสียหายไปมากแล้ว เป็นลูกคุณช่างบล็อกมาตลอด ขอเปิดโอกาสให้คนที่สนใจเข้ามาทำงาน ตนเองขอคุยด้วยสันติวิธี เพราะหากจะอยู่ด้วยความสมานฉันท์ตามที่ประธานวุฒิสภาบอก ก็ควรจะเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามารับผิดชอบในงานที่ถนัด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง