นายกฯ เรียก พีระพันธุ์-ไตรรงค์ หารือแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน

นายกฯ เรียก พีระพันธุ์-ไตรรงค์ หารือแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน ชี้ ไม่จำเป็นปรับลุค นายกฯ ทำงานการเมืองให้เป็นไปตามธรรมชาติ ด้าน ‘พีระพันธ์ุ’ ย้ำ แยกงานพรรค – งานราชการชัดเจน

ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 ธ.ค. 65) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง เข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลาประมาณ 14:00 น. บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาการหาหรือร่วมกันนานถึง 2 ชั่วโมง

ภายหลังการหารือนายไตรรงค์กล่าวว่า ได้หารือถึงปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น ปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่อยากให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งในฐานะตนเองที่เป็นที่ปรึกษาและเป็นนักเศรษฐศาสตร์ และผ่านการบริหารงานสถาบันทางการเงิน รวมถึงรับฟังข้อเสนอจากข้าราชการเก่ามาก่อน จึงนำเสนอการแก้ไขปัญหาให้นายกรัฐมนตรี รับทราบว่าแนวทางควรจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งในการแก้ไข ซึ่งในฐานะที่ปรึกษาต้องมีการแนะนำนายกรัฐมนตรีเช่นนี้ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็จะส่งผลดีกับประชาชน และประเทศชาติในทุกแนวทาง พร้อมย้ำว่าแนวทางที่เสนอให้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางที่ดี และตนเองก็จะช่วยเร่งรัดการปฏิบัติงานของข้าราชการอีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีไม่มีสิ่งใดให้ช่วยเหลือเป็นพิเศษ เพราะได้มีการพูดคุยกันบ่อยจึงไม่มีเรื่องใดที่จะต้องฝากเป็นพิเศษ เพราะรู้กันทุกเรื่องจึงไม่จำเป็นต้องฝากมองตาก็รู้ใจกันว่าจะต้องแก้ปัญหากันอย่างไร พร้อมกันนี้ระบุว่าพลเอกประยุทธ์ไม่จำเป็นต้องปรับลุคให้เป็นนักการเมืองมากขึ้น เพราะให้เป็นไปตามธรรมชาติ และ ไม่ต้องให้กำลังใจมาก เพราะนายกรัฐมนตรีคึกอยู่แล้ว

พร้อมกันนี้นายไตรรงค์ปฏิเสธไม่ตอบคำถามว่าได้สอบถามนายกรัฐมนตรีในการสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ โดยโยนเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค

นายพีรพันธุ์ระบุว่าเรื่องนี้ไม่ได้พูดคุยกันเพราะในวันนี้เป็นการหารือในข้อราชการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางในการทำงานในเรื่องของการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก โดยมอบแนวทางให้ที่ปรึกษาไปศึกษาข้อมูลทั้งหมด ยืนยันว่าการทำงานของพรรคและของรัฐบาลแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน และส่วนตัวก็แยกหน้าที่นี้ออกอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน รู้หน้าที่ว่าเรื่องไหนส่วนตัวเรื่องไหนส่วนรวม สิ่งไหนเป็นราชการหรือส่วนตัวก็ต้องแยกออกจากกันได้

ทั้งนี้นายไตรรงค์ยังระบุว่า การทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้เข้าทำเนียบรัฐบาลทุกวัน แต่ขณะนี้ก็ได้มีการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนเป็นจำนวนมาก พร้อมยอมรับว่าการเข้าทำเนียบรัฐบาลในวันนี้โดยเฉพาะตึกบัญชาการที่เคยทำงานมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก พร้อมกล่าวว่าทีมงานของตนเองมีคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยงาน รวมทั้งทีมงานถึง 50 คน

จากนั้น นายไตรรงค์ได้ขึ้นไปดูห้องทำงานของตนเองบนตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล