‘จุรินทร์’ ห่วงนิรโทษกรรมเหมาเข่งไม่ปรองดอง ลั่น นับหนึ่งก็แตกแยกแล้ว
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ฉบับที่บรรจุอยู่ในวาระสภาและรอการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาว่า พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมการกระทำความผิดตาม ม.110 และ ม.112
ส่วนที่บางพรรคการเมืองบอกว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งโดยรวม ม.112 ด้วย จะเป็นการปกป้องสถาบัน มองว่าจะเกิดสิ่งตรงข้ามมากกว่า และอาจเป็นแรงจูงใจในอนาคตให้มีการละเมิด มาตรา 110 และ 112 มากขึ้น เพราะเห็นว่าเมื่อละเมิดแล้วก็สามารถนิรโทษกรรมได้ และที่บอกว่าจะทำให้เกิดความปรองดอง มองว่านับหนึ่งก็แตกแยกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งอยู่ เพราะมีบางร่างที่เสนอเข้าไปค้างอยู่ในวาระประชุมสภา แต่ก็อยู่ที่มติสภา ส่วนจะพิจารณาแบบแยกฉบับ หรือพิจารณาพร้อมกัน ขึ้นอยู่กับวิปที่จะต้องหารือกัน ถ้าวิปเห็นพ้องกันว่าให้พิจารณาก็ต้องหยิบขึ้นมาพิจารณา แต่ถ้าเป็นเรื่องมาตรา 110 มาตรา 112 ทุจริตคอรัปชั่น อาญาร้ายแรง ตนเองและพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เห็นด้วย ยกเว้นเป็นการนิรโทษกรรมอันเกิดจากการกระทำความผิดจากแรงจูงใจทางการเมืองทั่วไป เช่น การชุมนุมทางการเมือง การผิด พ.ร.บ.จราจร หรือคำสั่งต่าง ๆ และถ้าสังคมเห็นพ้อง ตนเองก็ไม่ขัดข้อง
ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าอาจเกิดกรณี 143 เสียงของพรรคประชาชน รวมกับ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยร่วมกันยกมือให้ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมจะเป็นไปได้หรือไม่
นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีที่อาจเกิด 143 เสียงของพรรคประชาชน รวมกับ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย ยกมือให้ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ถ้ารวมกันก็ชนะ เพราะเสียงเกินครึ่ง และเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายก็มีความกังวล แต่หลัก ๆ ทางการเมืองมองว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะการที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้วไปจับมือกับฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาลจะคิดอย่างไร และจะทำงานร่วมกันอย่างไรในอนาคต ที่สำคัญความรู้สึกของประชาชนจะคิดอย่างไรด้วย