‘วสวรรธน์’ ให้กำลังใจ 2 พี่ใหญ่ คุยตกลงเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้ได้
‘วสวรรธน์’ ให้กำลังใจ 2 พี่ใหญ่ คุยตกลงเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้ได้ ชี้ คำนึงถึงหลักการก่อน บอก ยินดีหมดไม่ว่าใครนั่ง ไม่อยากเอาไม้บรรทัดตัวเองไปวัดใคร มอง หากเปิดให้ฟรีโหวต นำไปสู่เฟลโหวต
วันนี้ (29 มิ.ย. 66) นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมร่วมกันของ 8 พรรคร่วมในวันที่ 2 ก.ค. นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าวาระสำคัญในการประชุมจะหนักไปที่เรื่องประธานสภาหรือไม่ นายวสวรรธน์ ระบุว่า เรื่องของประธานสภาตนเคยพูดไปแล้ว ไม่อยากให้ตำแหน่งประธานสภาฯ ตำแหน่งเดียวเป็นตัวฉุดรั้ง ในการที่จะจัดตั้งรัฐบาล และมองว่าควรถอยคนละก้าวเพื่อประชาชน ส่วนตัวมองว่าน่าจะพูดคุยกันได้ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร และให้กำลังใจทั้ง 2 พี่ใหญ่ ซึ่งพี่น้องประชาชนให้ความคาดหวังกับเรามาแล้ว และเราจะไม่ไปทำลายความหวังของพี่น้อง เพราะไม่อยากให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากำหนดการในการประชุมพรรคร่วมถูกเลื่อนออกไป จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปหรือไม่ นายวสวรรธน์ กล่าวว่า ตนเองมองว่าทุกพรรคมีทีมงานที่จะต้องไปสื่อสารกัน อาจจะต้องใช้เวลา ซึ่งมีหลายส่วนทั้งกรรมการบริหารพรรค หรือบุคคลากรในพรรค ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ อาจจะต้องมีการพูดคุยกันหลายฝ่าย ซึ่งการเลื่อนกำหนดการออกไป ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีเวลาอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด อยากให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้อง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องว่า เราจะมีรัฐบาลได้เร็ววัน โดยที่ตำแหน่งประธานสภาฯ จะไม่เป็นตัวปัญหา
ทั้งนี้ นายวสวรรธน์ ระบุอีกว่า ตนเองให้กำลังใจทั้ง 2 พรรค ไม่ว่าใครจะมาเป็นก็ยินดี แต่ส่วนตัวมองว่าหลักการก็สำคัญ โดยอยากให้คำนึงถึงหลักการก่อน หลักค่อยอยู่ไม่นาน หลักการอยู่ตลอดไป และมองว่าหาก 2 พรรคตกลงกันได้ก็ไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถึงขั้นฟรีโหวตเลยหรือไม่ นายวสวรรธน์ กล่าวว่า พี่ใหญ่คือพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดแล้วว่าจะระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลเองก็เช่นกัน เพราะหากมีการฟรีโหวตตนมองว่าอาจจะนำไปสู่เฟลโหวตมากกว่า
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลเปิดชื่อ นายปดิพัทธ์ สันดิภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯนั้น ทางพรรคเพื่อไทย ควรจะรีบเปิดชื่อหรือไม่ เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบและพิจารณา นายวสวรรธน์ กล่าวว่า ตนเองไม่สามารถตอบแทนพรรคเพื่อไทยได้ ต้องไปถามทางพรรคเพื่อไทย แต่ตนมองว่าใครจะมาเป็นเราก็ยินดีหมด แสดงว่าคนนั้นต้องเหมาะสมแล้ว ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน แต่ ณ วันนี้ เราต้องไม่ทำให้พี่น้องผิดหวัง เพราะเขาให้ความหวังกับเรามาแล้ว เราต้องอย่าทำให้ความหวังของพี่น้องพังทลาย และพรรคฝ่ายประชาธิปไตยก็ชนะมาแล้ว เราต้องสร้างความหวังและกำลังใจประชาชน และต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ เราจะไปคิดไม่ได้ว่าจะมีรัฐบาลขั้วอื่น วันนี้ทุกคนจับตาดูเราอยู่ เราต้องรักกันเหนียวแน่น ซึ่งวันที่ 2 ก.ค. จะมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้น และต้องมีรัฐบาลชุดใหม่ได้ โดยทุกคนจะถอยกันคนละก้าว สองก้าว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง ซึ่งทุกอย่างจะจบแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล มีสเปกของประธานสภาฯ ที่ตั้งไว้หรือไม่ นายวสวรรธน์ กล่าวว่า ตนมองว่าทุกพรรคการเมือง ก็มีเหตุผลของตัวเอง เราไม่สามารถเอาไม้บรรทัดไปวัดว่าใครเหมาะสมที่สุด หรือใครยังไม่เหมาะสม แต่มองว่าหาก 2 นั้น ตกลงกันแล้ว ก็คงจะเหมาะสมและคงต้องยอมรับ ซึ่งตนในฐานะที่เป็น 1 ในพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่อยากให้เอาประเด็นประธานสภาฯ เข้ามาทำให้แตกหักกัน ตนยินดีด้วยหมด ทั้งนี้ ในส่วนตัวตนมองว่าคนที่จะเป็นประธานสภาฯ ต้องเป็นประธานของส.ส.ทุกคน ไม่ใช่พรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง มีความเป็นกลางสูง
“จริง ๆ วัฒนธรรมการเมืองแบบใหม่ออกมาตั้งแต่วันเลือกตั้งจบไปแล้ว คือ พรรคอันดับ 1 พรรคอันดับ 2 และพรรคประชาธิปไตย จับมือด้วยกัน จึงอยากให้รักษาบรรยากาศแบบนี้ไว้ และอยากให้คำนึงเสมอว่าพี่น้องประชาชน ให้ดาบอาญาสิทธิ์ มาแล้ว ให้เสียงสวรรค์มาแล้ว เราต้องไม่ลืมตรงนี้ “ นายวสวรรธน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวอาจจะเลื่อนการเกิดประชุมเพื่อโหวตเลือกของประธานสภาฯ ในวันที่ 4 ก.ค. ออกไปเนื่องจากเกิดปัญหาความไม่ลงตัวทั้ง 2 พรรค นายวสวรรธน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบข้อมูล