ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำ คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ม็อบ ‘แฮร์รี่พ็อตเตอร์ 1’
ศาลแขวงดุสิต ยกฟ้อง 6 แกนนำ คดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ม็อบ ‘แฮร์รี่พ็อตเตอร์ 1’ ปรับคนละ 200 ฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันนี้ (28 พ.ย. 65) เวลา 13:30 น. ศาลแขวงดุสิต นัดอ่านคำพิพากษาในคดีการชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” หรือม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563
ต่อมา ศาลแขวงดุสิตพิพากษา ยกฟ้อง ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และไม่มีปฏิบัติตามเงื่อนไขเจ้าพนักงานชุมนุมสาธารณะ ในคดีผู้ชุมนุมแฮรี่พอตเตอร์ 1 แต่ให้ลงโทษฐานใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับจำเลยทั้ง 6 คนละ 200 บาท
ซึ่งคดีนี้ มีนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดี 6 ราย ได้แก่ น.ส. ชลธิชา แจ้งเร็ว, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก, นายณรงค์ ดวงแก้ว, นายชูเวช เดชดิษฐรักษ์, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูรณ์ผล และชาติชาย แกดำ โดยทั้งหมดถูกฟ้องในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และ ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
เหตุการณ์ชุมนุมในคดีนี้เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ อานนท์ นำภา นักกิจกรรมทางการเมือง และทนายความสิทธิมนุษยชน ปราศรัยในประเด็นสถานะอำนาจของสถาบันกษัตริย์ ทำให้ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ศาลอาญา ในข้อหาตามมาตรา 112 และมาตรา 116 อีก 2 ข้อหา เพิ่มเติมจากข้อหาที่มีการดำเนินคดีกับจำเลยทั้ง 6 ในคดีนี้ ซึ่งสองข้อหาดังกล่าวมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดเกิน 3 ปี เกินอำนาจการพิจารณาของศาลแขวง อัยการจึงแยกสำนวนของอานนท์ออกเป็นอีกสำนวน และยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแทน
ด้าน น.ส.ภัสราวลี ระบุว่า ในกรณีของการชุมนุม ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นการชุมนุมโดยใช้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญ สามารถพึงกระทำได้ จึงเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง ส่วนเรืรองการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ศาลสั่งปรับ คนละ 200 บาท
น.ส.ภัสราวลี กล่าวอีกว่า วันนี้ถือเป็นหมุดหมายที่ดี เพราะว่าคำพิพากษาที่ศาลว่าการชุมนุมแบบที่พวกเรากระทำนั้น ประชาชนสามารถทำได้ และรับรองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นเครื่องยืนยันว่า เป็นเหตุทำให้พวกเราต้องออกมาพูดปัญหาบ้านเมืองให้ได้