‘วันนอร์’ เล็งหารือ วิป 3 ฝ่าย กำหนดวันอภิปราย แถลงนโยบายรัฐบาล
‘วันนอร์’ เล็งหารือ วิป 3 ฝ่าย อภิปราย แถลงนโยบายรัฐบาล คาด 8 ก.ย.ก็พร้อม ย้ำ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ต้องเป็นหัวหน้าพรรค – สส.เท่านั้น หากก้าวไกล ไม่รับก็เป็นของพรรคถัดไป
วันนี้ (28 ส.ค. 66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการกำหนดวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า เมื่อพร้อมจะแจ้งวิป 3 ฝ่าย ในการอภิปราย ส่วนในวันที่ 8 กันยายน พร้อมหรือไม่นั้น คิดว่า “คงพร้อม” และการจะอภิปรายกี่วัน จะต้องดูจากการอภิปรายในอดีต และรับฟังวิปแต่ละฝ่าย ทั้ง สส. และ สว. ว่าต้องการเวลาเท่าไหร่ รวมทั้งฝ่ายรัฐบาลก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการชี้แจงด้วย
สำหรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หลังพรรคก้าวไกล ประกาศไม่ลาออกจากรองประธานสภาฯ คนที่ 1 นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตามปกติรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระบุชัดว่าพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล และไม่มีตำแหน่งประธาน และรองประธานสภาฯ หัวหน้าพรรคที่มีจำนวน สส. มากที่สุดจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ โดยสภาฯ จะทูลเกล้าฯ รายชื่อ แต่เมื่อพรรคก้าวไกลประสงค์จะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็ต้องแจ้งเพื่อสละสิทธิ์ให้พรรคฝ่ายค้านลำดับรองลงไป เพราะจำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้านฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสภาและคัดเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. และ กกต. จะต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในคณะกรรมการสรรหา รวมทั้งกรรมการจริยธรรมในสภาผู้แทนราษฎรด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีกรอบเวลาในการทูลเกล้าฯ ชื่อผู้นำฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับความพร้อม แต่ขณะนี้มีรัฐบาลแล้วก็ต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เพราะมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำว่า ผู้ที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านจะต้องเป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้น และต้องเป็น สส.ในสภาฯ แต่ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ได้เป็น สส.ก็ต้องเปลี่ยน ซึ่งเชื่อว่าพรรคการเมืองจะจัดการเรื่องนี้ได้ เหมือนกรณีของพรรคเพื่อไทยที่มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ก็ต้องเปลี่ยนผู้นำฝ่ายค้านฯ
ขณะเรื่องการจัดสรรตำแหน่งในกรรมาธิการสามัญของสภาฯ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ตอนนี้เริ่มแต่งตั้งได้แล้วว่า พรรคใดบ้างที่เป็นรัฐบาล พรรคใดไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งตนเองได้ หารือกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ไว้บ้างแล้ว และคงต้องนัดคุยกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่ยาก เพราะทุกพรรคสามารถจัดสรรหา กมธ. ตามสัดส่วน สส. แต่ที่ต้องคุย คือ พรรคใดจะเป็นประธาน กมธ.ตามสัดส่วน น่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ที่อยากให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ กมธ. ไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีมากขึ้นทุกวัน ส่วน กมธ. วิสามัญจะตั้งตามวาระที่เสนอตามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
