ศาลฎีกาสั่งจำคุก ‘สนธิญาณ’ 8 เดือน รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 2 หมื่น คดีขัดขวางการเลือกตั้ง
ศาลฎีกาสั่งจำคุก ‘สนธิญาณ’ 8 เดือน ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 2 หมื่น คดีร่วมชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้ง ส่วนจำเลยที่ 2-4 ยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
วันนี้ (28 พ.ค. 67) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีร่วมกันเป็นกบฏ สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557 และ อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 4 ราย คือ
1.นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 66 ปี แกนนำ กปปส.
2.นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 47 ปี อดีต สส.กทม.
3.นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 73 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.)
4.นายเสรี วงศ์มณฑา อายุ 75 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด
ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 4 ราย ถูกยื่นฟ้องในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต.” และข้อหารวม 8 ข้อหา
คดีสำนวนแรก อัยการยื่นฟ้องตั้งแต่ปี 2557 กรณีร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 มีการพาผู้ชุมนุมปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลย มีกำหนด 5 ปี ขณะที่จำเลยทั้ง 4 ราย ให้การปฏิเสธทุกข้อหาพร้อมตั้งทนายความสู้คดี
ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 2558-2562 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 62 ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้โทษเป็นจำคุกนายสนธิญาณ 8 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมถึงมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-4 ยกฟ้อง
สำหรับวันนี้มีประเด็นเฉพาะฎีกาจำเลยที่ 1 นายสนธิญาณ โดยศาลฎีกาพิพากษาเเก้คำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก นายสนธิญาณ 8 เดือน เเต่พิจารณาเเล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายมาก ไม่เคยรับโทษมาก่อน ประกอบอาชีพเป็นสื่อมวลชน เห็นควรให้ประกอบอาชีพรับใช้สังคม การลงโทษจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์ เเต่เพื่อให้หลาบจำ เห็นควรรอลงอาญา 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท ส่วนจำเลยที่เหลือให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์