นายกฯ สั่ง ครม.ติดตามความคืบหน้า ร.ล.สุโขทัย ครูบูลลี่ป๋าเปรม คดีบอส คดีตู้ห่าว

นายกฯ สั่ง ครม. ติดตามความคืบหน้า “ร.ล.สุโขทัย – ครูบูลลี่ป๋าเปรม – คดีบอส – คดีตู้ห่าว” ต้องรายงานผลทุก 15 วัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (27 ธ.ค. 65) ตนได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ เร่งติดตามความคืบหน้า สืบสวน และสอบสวน ตลอดจนดำเนินการให้เกิดความชัดเจน ในประเด็นสำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของประชาชน โดยให้รายงานผลความคืบหน้าหรืออุปสรรคให้นายกรัฐมนตรีทราบ ทุก 15 วัน ประกอบด้วย
1.กรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุอับปาง : ผมได้เน้นย้ำให้กองทัพเรือระดมสรรพกำลังค้นหากำลังพลที่สูญหายอย่างเต็มที่ และให้ความช่วยเหลือเยียวยากำลังพลและครอบครัวที่ประสบเหตุ บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญหาย อีกทั้งเร่งตรวจสอบสาเหตุให้ได้ข้อเท็จจริงชัดเจนโดยเร็ว
2.กรณีครูโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย มีพฤติกรรมจาบจ้วงบุคคลสำคัญด้วยข้อความที่เป็นเท็จ : ผมได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง การปลูกฝังข้อมูลที่เป็นเท็จให้นักเรียน จนก่อให้เกิดความเกลียดชัง หรือขัดแย้งในสังคม และดำเนินการตามระเบียบ/กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3.กรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ต้องคดีข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ แล้วหลบหนีไป : ผมขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบว่า ผมยังคงติดตามความคืบหน้าของคดีนี้อยู่ตลอดเวลา โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งติดตามผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี และตรวจสอบเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำตัวมาดำเนินคดี เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและโปร่งใส โดยจะไม่ให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
4.กรณีการตรวจและจับกุมเครือข่ายกลุ่มทุนต่างชาติ ที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย (คดีเครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา) : ผมได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบ และดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีน ได้แก่ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก ซึ่งมีพฤติกรรมกระทำความผิดในลักษณะอาชญากรรมข้ามชาติ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เร่งขยายผลไปสู่กลุ่มอาชญากรและผู้กระทำผิดกฎหมายรายอื่นๆ โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น
นายกรัฐมนตรียังระบุถึงสิ่งสำคัญของทั้ง 4 กรณี ว่า คือการทำความจริงให้ปรากฎแก่สังคมอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข เพื่อความมั่นคงของประเทศ และเพื่อความอบอุ่นใจของประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งเมื่อได้รับรายงานแล้ว นายกรัฐมนตรีจะนำมาแจ้งความคืบหน้าให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป