มท. 1 มอบ ‘ทรงศักดิ์ - อธิบดีกรมที่ดิน’ แจงปมเขากระโดง

ขอบคุณ กมธ. ให้โอกาสแจงประชาชน ชี้ แม้ศาลพิพากษาถึงที่สุด แต่ต้องพิสูจน์สิทธิเฉพาะคู่ความ ยัน ต้องเป็นธรรม ด้าน ‘พูนศักดิ์’ ยัน พิจารณายึดข้อกฎหมายไม่โยงการเมือง
วันนี้ (27 พ.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี เป็นประธาน ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มอบหมายให้นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยมาแทน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้นายโสภณ ปิยะภาณี ผู้อำนวยการกองกฎหมายสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคมมาแทน, นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน, ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มอบหมายให้นายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าแทน รวมถึงยังมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยเข้าชี้แจงกรณีข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์
นายพูนศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การเชิญมาในวันนี้เป็นประเด็นเขากระโดง ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ และกรรมาธิการยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในขอบเขตอำนาจ หน้าที่ ของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน รวมถึงกระบวนการที่มาของการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งจากการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ ถ้าเห็นว่ามีประเด็นน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ตัวประมวลกฎหมาย ควรจะต้องเร่งดำเนินการ รอคณะกรรมการชุดนี้มีผล ในการวินิจฉัยว่าจะเพิกถอนหรือไม่
นายพูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย จะต้องดำเนินการต่อ ไม่ว่าจะไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งมีระเบียบของการอุทธรณ์ไว้อยู่ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ ไม่ต้องการให้เรื่องนี้เงียบ และหายไปกับสังคม ยืนยันว่า การประชุมของคณะกรรมาธิการในวันนี้เราจะเห็นภาพของที่มาที่ไป ของคณะกรรมการตามมาตรา 61 ถ้ากระบวนการจัดตั้งไม่ถูกต้อง จะต้องแก้ไขระเบียบใหม่ และเชื่อว่าในประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ การทุจริต ในการเพิกถอน และการออกเอกสารสิทธิ์ ดังนั้น คณะกรรมาธิการชุดนี้จึงมีความสำคัญมาก ในการจัดการที่ดินของประเทศ และประสิทธิภาพของคณะกรรมาธิการชุดนี้ เป็นอีกประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ
ส่วนที่เรื่องนี้มีคนการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ในส่วนของการเมืองหรืออิทธิพล หรือการเมืองอาจมีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้อง เราอาจจะไม่ได้พิจารณาในการประชุมวันนี้ โดยหัวข้อหลัก ในการประชุมคือเรื่องของข้อกฎหมาย ระเบียบวิธีปฏิบัติ แต่หากมีช่องโหว่ใด ที่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ก็เป็นหน้าที่ ของ คณะกรรมาธิการในการแก้ไขและปรับปรุง ข้อกฎหมาย และย้ำว่า การประชุมกรรมาธิการ จะเน้น ระเบียบวิธีปฏิบัติ ของคณะกรรมการมาตรา 61 มีข้อบกพร่องอย่างไร และหากมีข้อบกพร่องกามาธิการจะดำเนินอย่างไร ซึ่งเป็นงานหลักของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการดูว่าข้อกฎหมายช่องโหว่ระเบียบปฏิบัติของฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร เพื่อนำมาแก้ไข
หลังจากนั้น ได้เริ่มต้นเปิดการประชุม โดยนายทรงศักดิ์ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องเขากระโดงที่เป็นที่น่าสนใจของประชาชน และส่วนใหญ่ประชาชนดูข้อมูลทางสื่อ โดยยังได้ข้อมูลไม่ชัดเจนเท่าที่ควร เชื่อว่าวันนี่ก็จะให้ข้อมูลที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ เพื่อให้ กมธ. หารือจนสรุปประเด็น เพื่อบอกประชาชนที่ถือครองที่ดินมา และเป็นประโยชน์กับการรถไฟด้วยให้เกิดความชัดเจน
นายทรงศักดิ์ ระบุอีกว่า วันนี้ตนเองนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้กระทบกับสิทธิคนเดียว แต่กระทบส่วนราชการ และประชาชนด้วย โดยตัวเลข 900 กว่าราย ตนเองก็เห็นใจเหมือนกัน เพราะครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายมาตลอด หลายคนเข้าใจว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟทั้งหมด อยากให้ดำเนินเรื่องนี้ เพราะเป็นตัวกลางที่จะทำให้เรื่องนี้สะท้อนข้อเท็จจริงทั้งสองทาง ว่าการได้ของที่ดินเป็นอย่างไร ประชาชนครอบครองที่ดินอย่างไร ซึ่งเมื่อคำพิพากษาถึงที่สุด ก็ต้องยอมรับ แต่เป็นเพียงที่สุดเฉพาะคู่ความเท่านั้น แต่ที่เหลือต้องพิสูจน์สิทธิ์ ซึ่งการเพิกถอนที่ดินทั้งหมด จะเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่อย่างไร จึงอยากฝาก กมธ. ทุกท่าน อยากให้มีความรอบคอบ และทางกระทรวงมหาดไทยยินดีให้ข้อมูลเพื่อให้เรื่องนี้เป็นประโยชน์ มีความรอบคอบ และชัดเจน