POLITICS

2 เยาวชนนักกิจกรรมการเมืองถูกคุกคาม-แจ้งความ สน.ดุสิต

2 เยาวชนนักกิจกรรมการเมืองถูกคุกคาม-สายคลัตช์ถูกตัดจนจักรยานยนต์ล้มคว่ำ-เยาวชนวัย 13 ปี ถูกรุมทำร้าย-แจ้งความ สน.ดุสิต

วนนี้ (27 ต.ค. 65) น.ส.แทนฤทัย แท่นรัตน์ หรือ พิมพ์ นักกิจกรรมการเมือง อายุ 22 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 65) ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม ภายหลังเกิดเหตุถูกกลุ่มบุคคลปองร้ายในคืนวันที่ 21 ต.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. น. ซึ่งตนและเพื่อนนักกิจกรรมนัดพบและรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สาขาถนนราชดำเนิน แต่เมื่อเดินทางไปถึงร้านด้วยรถจักรยานยนต์ ได้มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนแจ้งให้นำรถเข้าไปจอดในโรงเรียนสตรีวิทยา โดยอ้างว่าเพื่อความเรียบร้อย

น.ส.แทนฤทัย กล่าวว่า จนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ ตนและเพื่อนนำรถจักรยานยนต์ออกมาจากโรงเรียนสตรีวิทยาและขับออกไป โดยมีเพื่อนเป็นผู้ขับขี่และตนนั่งซ้อนท้าย ระหว่างที่กำลังขับขี่อยู่บนถนน ได้เกิดความผิดปกติกับรถมอเตอร์ไซค์ โดยมีอาการกระชากและเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ ส่งผลให้รถล้มและหวุดหวิดเข้าไปใต้ท้องรถยนต์ที่กำลังแล่นผ่าน โดยตนได้รับบาดเจ็บหัวกระแทกพื้นอย่างแรง แต่โชคดีที่สวมหมวกกันน็อค ขณะที่เพื่อนที่เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาเล็กน้อย มีอาการปวดระบม

“หลังจากเกิดเหตุมีการตรวจสอบพบสายคลัตช์ที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่เมื่อ 17 ต.ค. พบว่ามีรอยถูกกระชากและขาดเสียหายบริเวณยางหุ้มสาย ซึ่งไม่ใช่รอยที่เกิดจากการใช้งานทั่วไป ส่งผลให้ล้อล็อกและเกิดอุบัติเหตุรถล้ม” น.ส.แทนฤทัย กล่าว

น.ส.แทนฤทัย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ถูกแอบตัดสายครัตช์ ครั้งแรกเกิดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว(ส.ค.) ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนมอเตอร์ไซค์คันใหม่ และตรวจความเรียบร้อยจักรยานยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เนื่องจากยังคงหวาดระแวงและกังวลความปลอดภัยในชีวิต

“ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือตัดสายครัตช์ แต่คาดว่าเป็นช่วงที่รถมอเตอร์ไซค์จอดที่โรงเรียนสตรีวิทยา เพราะก่อนหน้าที่จะไปที่ร้านอาหาร รถยังขับขี่ได้เป็นปกติ ไม่มีปัญหา เราเองก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางรุนแรงกับใครมาก่อน แต่กังวลว่าอาจเป็นเพราะบทบาทนักกิจกรรมการเมือง อาจทำให้ตกเป็นเป้าหมายความรุนแรง เพราะเชื่อว่ามีความพยายามทำให้เราตกอยู่ในอันตราย” น.ส.แทนฤทัย กล่าว

สำหรับน.ส.แทนฤทัย หรือพิมพ์ เป็นนักกิจกรรมจากกลุ่มภาคีเซฟบางกลอย และกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก รวมถึงร่วมผลักดันประเด็นการเมืองและสิทธิมนุษยชนอีกหลายประเด็น เช่น สมรสเท่าเทียม สิทธิที่ดินทำกินของชาวชาติพันธุ์ เป็นต้น

นอกจากนี้ในคืนวันเดียวกัน น้องเอีย (สงวนชื่อ-นามสกุล) เยาวชนอายุ 13 ปี ผู้เคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง แจ้งผู้สื่อข่าวว่า ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต ภายหลัวถูกกลุ่มบุคคลปริศนา 6 คน เข้ามาทำร้ายระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยเยาวชนวัย 13 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึกขณะที่กำลังขับรถจักรยานยนต์ติดไฟแดงที่สี่แยกราชวิถี มีคนขับรถจักรยานยนต์มาจากทาง สน.ดุสิต มามองหน้า ตนรู้สึกไม่ไว้ใจจึงพยายามขับมาหน้าพระตำหนักจิตรลดาฯ เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ แต่คนกลุ่มนั้นยังคงขับมอเตอร์ไซค์มาประกบและบอกให้จอด เมื่อตนจอดรถ ชายกลุ่มนั้นหยิบมีดจ่อหน้า และต่อยเข้าที่ใบหน้า พร้อมกับพูดว่า มึงเก่งเหรอ ตนสังเกตเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาพยายามทำร้ายต่างพกอาวุธปืน แต่ไม่ทราบชนิด

“ก่อนที่กลุ่มคนที่เข้ามาทำร้ายจะจากไป มีคนหนึ่งบอกเขาว่า มึงมาแก้ใหม่ได้ แต่ผมไม่เข้าใจความหมายว่าหมายถึงอะไร แต่สังเกตเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ทางฝั่งตรงข้ามวังจิตรลดา ไม่มีการเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด” เยาวชน วัย 13 ปี กล่าว

สำหรับ ‘เอีย’ เป็นหนึ่งใน 280 เยาวชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ปัจจุบัน ‘เอีย’ ถูกดำเนินคดี 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะกำลังปั่นจักรยานกลับบ้านผ่านสถานที่ชุมนุม 13 กันยายน 2564 บริเวณแยกดินแดง และครั้งที่ 2 ถูกตั้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และร่วมมั่วสุมใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อ 15 เมษายน 2565

ทั้งนี้ในวันเดียวกันนี้ เวลา 13.00 น.เยาวชนและนักกิจกรรมกลุ่มนี้จะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้คุ้มครองและยุติการคุกคามนักกิจกรรมที่เห็นต่าง

Related Posts

Send this to a friend