‘คริษฐ์’ ชี้ ฝายดินซีเมนต์ใช้ชะลอน้ำยามแล้ง ไม่เกี่ยวป้องกันน้ำท่วม
‘คริษฐ์’ ชี้ ฝายดินซีเมนต์ใช้ชะลอน้ำยามแล้ง ไม่เกี่ยวป้องกันน้ำท่วม ย้ำ ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ต้องพิจารณาเป็นกรณี
วันนี้ (27 ส.ค. 67) คริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคเพื่อไทย ตั้งประเด็นถึงอดีตพรรคก้าวไกลเรื่องการตัดงบประมาณก่อสร้างฝายดินซีเมนต์ในปีงบประมาณ 2567 อ้างเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมมีความรุนแรงในปัจจุบัน
คริษฐ์ กล่าวว่า ข้ออ้างดังกล่าวเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งในตัวเอง ในฐานะที่ตนเองมีประสบการณ์ทำฝายมาแล้ว 8 ปี ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำฝายโดยพื้นฐานทั่วไปต้องทำในระดับที่ต่ำกว่าตลิ่งอยู่แล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ปริมาณน้ำมามากกว่าระดับของฝาย น้ำจะยังคงไหลผ่านไป ฝายไม่ได้ทำหน้าที่อะไรไปมากกว่านั้น ดังนั้น วัตถุประสงค์ของฝายดินซีเมนต์จึงไม่ได้เกี่ยวกับการชะลอน้ำท่วม แต่เป็นการชะลอน้ำในวันที่ไม่มีน้ำ เพื่อดึงเวลาให้น้ำอยู่นานขึ้นไปจนถึงหน้าแล้ง ไม่ใช่โครงสร้างถาวรแบบเขื่อน ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้
คริษฐ์ กล่าวต่อว่า ฝายมีประโยชน์ในแบบเฉพาะที่นำมาใช้กับสถานการณ์ และบริบทแบบหนึ่ง ไม่สามารถนำมาใช้ในทุกแหล่งน้ำทั่วประเทศได้ ซึ่งพรรคประชาชนไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการสร้างฝาย แต่ถ้าจะสร้างจริงต้องพิจารณาเป็นกรณีไปให้เกิดความคุ้มค่า และมีความโปร่งใส แต่งบประมาณการก่อสร้างฝายดินซีเมนต์ทั่วประเทศที่กำลังเป็นประเด็น มีการตั้งข้อสังเกตในกรรมาธิการงบประมาณฯ ว่าส่อไม่คุ้มค่าและไม่โปร่งใส หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้ารับประกันผลงาน 2 ปี และการลงมติตัดงบประมาณ สส.เพื่อไทย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่โหวตตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก ที่เสนอให้ตัดงบฝาย
ส่วนปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นวงรอบแทบทุกปีในประเทศไทย ที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา และมีข้อเสนอในแนวทางที่ต่างกัน โดยพรรคประชาชนมีความเห็นว่าการแก้ปัญหาทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วมเป็นเรื่องเดียวกัน คือการมีที่กักเก็บน้ำตั้งแต่ต้นทางเพื่อเก็บไว้ใช้เมื่อยามแล้ง เมื่อถึงยามน้ำมากก็ต้องมีช่องทางให้น้ำระบายออกได้
การที่ประเทศไทยมีน้ำท่วมและน้ำแล้งเกิดขึ้นทุกปีแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีน้ำเพียงพอสำหรับทุกคน แต่การจัดการที่ผ่านมาทำให้ปริมาณน้ำที่ควรจะมีมากพอสำหรับทุกคนกลายเป็นมีมากเกินไปในช่วงเวลาหนึ่ง และเมื่อผ่านไปกลับไม่มีน้ำเพียงพอใช้ ถ้าสามารถทำให้การจัดการมีระบบขึ้นมาได้ ประเทศไทยจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอีกเลย