’ชัยธวัช-ภราดร’ เห็นพ้องพรรคการเมืองต้องเกิดง่าย ตายยาก ห้ามยุบ

กกต.จัดเสวนาพรรคการเมืองสร้างชาติ เชิญสามแกนนำร่วมถก ’ชัยธวัช-ภราดร’ เห็นพ้องพรรคการเมืองต้องเกิดง่าย ตายยาก ห้ามยุบ จะอยู่จะตายขึ้นกับประชาชน ด้าน ‘ชูศักดิ์’ เผยผู้ใช้อำนาจมองพรรคการเมืองคือ ความมั่นคงของรัฐ

วันนี้ (27 มี.ค.67) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดกิจกรรมเสวนาวิชาการหัวข้อ “พรรคการเมืองสร้างชาติ” และประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ณ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องบทบาทหน้าที่ของพรรคการเมืองกับการพัฒนาการเมือง และผลักดันการเป็นสถาบันของพรรคการเมืองที่มีวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ประมุข เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการเมืองและธรรมาภิบาลสูง

โดยช่วงหนึ่งของเสวนาได้มีการกล่าวถึงกรณีการยุบพรรคการเมือง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เริ่มต้นด้วยการขอบคุณ กกต.ที่ให้เกียรติเชิญพรรคการเมืองที่ กกต.มีความเห็นว่าล้มล้างการปกครองและเสนอให้ยุบพรรคมาร่วมงาน พร้อมตั้งคำถามว่าการเมืองดีคือ การเมืองที่ยุบพรรคเป็นปกติ พรรคการเมืองบางพรรคถูกสั่งไม่ให้หาเสียงหรือออกแบบนโยบาย มีความอันตรายถึงขั้นยุบพรรค หรือการเมืองดีคือการออกแบบกฎกติกาที่ยุบยิบ การเมืองจะดีไม่ได้หากออกแบบกติกาบนพื้นฐานที่ไม่ไว้ใจของประชาชน มีความพยายามควบคุมอำนาจและสถาบันทางการเมืองให้อยู่ใต้อำนาจที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แต่เป็น “คุณพ่อรู้ดี” ว่าการเมืองที่ดีเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญของการเมืองไทย

“เชื่อว่าถ้าพรรคก้าวไกลไม่ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงที่เยอะขนาดนี้ก็คงไม่ถูกจ้องยุบพรรค หากเราอยากจะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งพรรคการเมืองต้องเกิดง่าย ดำเนินการง่าย ตายยาก ห้ามยุบ”

นายภราดร ปริศนานันกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มองว่าพรรคการเมืองควรจะถูกยุบพรรคโดยประชาชน เพราะพรรคการเมืองเกิดขึ้นจากประชาชน การอยู่หรือการตายของพรรคการเมือง จึงต้องขึ้นอยู่กับประชาชนด้วย ในฐานะคนการเมืองรู้สึกเจ็บปวดและระแวงว่าจะถูกยุบพรรคจากการทำการเมืองหรือไม่ ตนเองอยากเห็นการเมืองที่แข่งกันนำเสนอทัศนคติทางการเมือง เศรษฐกิจ และการศึกษา โดยในการเลือกตั้งปี 2562 และ 2566 พรรคการเมืองแข่งกันแค่ว่าเป็นพวกใคร ใครเป็นเผด็จการ ใครเป็นประชาธิปไตย แต่แท้ที่จริงพรรคการเมืองควรแข่งกันที่นโยบายมากกว่า

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเรื่องการยุบพรรคขึ้นอยู่กับฐานความคิด ในอดีตผู้ใช้อำนาจปกครองประเทศ ณ ขณะนั้น มองว่าพรรคการเมืองเป็นส่วนหนึ่งความมั่นคงของรัฐ ไม่ได้มองว่าพรรคการเมืองคือสิทธิและเสรีภาพของประชาชน บริบทยุบพรรคควรหมดไป หากผู้ใดกระทำผิด ให้ผู้นั้นรับผิดชอบเพราะพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคล