นายกฯ ยืนยัน 10 เม.ย. นี้ ได้ข้อสรุปทั้งหมด ’ดิจิทัลวอลเล็ต‘ ส่งให้ ครม.พิจารณา
นายกฯ ยืนยัน 10 เม.ย. นี้ ได้ข้อสรุปทั้งหมด ’ดิจิทัลวอลเล็ต‘ เพื่อส่งให้ ครม.พิจารณาภายในเมษา เชื่อชัดเจนแน่ เตรียมรอฟังข่าวดี
วันนี้ (27 มี.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า วันนี้ที่ประชุมรับทราบเศรษฐกิจมีปัญหา มีความเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เนื่องจากมีการเติบโตต่ำของจีดีพี ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา กระทรวงการคลังได้เสนอแนวทางที่มาเงินนอกเหนือจากการออก พ.ร.บ.เงินกู้ฯ มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณไปดำเนินการ และรายงานในที่ประชุมใหญ่วันที่ 10 เมษายนนี้ รวมทั้งมอบให้กระทรวงพาณิชย์ สรุปหลักเกณฑ์ร้านค้า และสินค้ารายงานในวันเดียวกัน และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบอร์ดรัฐบางดิจิทัล สรุปการพัฒนาระบบ ในการจัดทำในลักษณะเปิด หรือ Open Loop และสถาบันการเงินและ ผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ ต้องรายงานที่ประชุมในวันเดียวกัน โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติวางกรอบการตรวจสอบวินิจฉัยร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืน
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในวันที่ 10 เมษายนจะได้ข้อสรุปทั้งหมด เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนเมษายน และยืนยันตามกรอบไทม์ไลน์เดิม คือในไตรมาส 3 จะลงทะเบียนร้านค้าและประชาชนส่วนไตรมาส 4 เงินจะถึงพี่น้องประชาชน
“ทุกภาคส่วนเห็นด้วยหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ ผู้ว่าแบงค์ชาติก็เห็นด้วยทั้งหมด เพราะฉะนั้นจะต้องรอฟังข่าวดีวันที่ 10 เมษายน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
โดยในที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ตนั้น เป็นหนึ่งในมาตรการระยะสั้น ที่จะเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้กระจายตัวไปอยู่ในท้องที่
ดังนั้น การดำเนินโครงการต้องเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจในปัจจุบัน ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น จากที่กล่าวมาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดเป็นรูปประธรรมโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าเรามีข้อมูลความเห็นข้อท้วงติงและข้อเสนอแนะ ทุกภาคส่วนและอยู่ระหว่างให้หน่วยงานให้ความเห็นกลับ ซึ่งก็ขอให้การดำเนินการโครงการนี้เป็นไป โดยคำนึงถึงความเห็นของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบ ดำเนินโครงการไปพิจารณา ทำรายละเอียดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเป็นไปตามข้อพึงระวัง คือความเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับมา พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลดำเนินโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ และที่สำคัญการใช้อำนาจต่าง ๆ ในการดำเนินโครงการ จะต้องเป็นไปโดยซื่อสัตย์สุจริต รอบคอบ และระมัดระวังเพื่อประโยชน์ของประเทศ และประชาชนโดยรวม ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
