‘ชูวิทย์’ เดือด หลัง สธ.บุกตรวจร้านกัญชาในโรงแรมเชื่อ ถูกกลั่นแกล้ง
‘ชูวิทย์’ เดือด หลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุกตรวจร้านกัญชาในโรงแรม เชื่อ ถูกกลั่นแกล้ง ยันเดินหน้าเล่นเรื่องกัญชาต่อ
วันนี้ (27 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 14:40 น. ที่โรงแรมเดอะเดวิส บางกอก ซ.สุขุมวิท24 มีเจ้าหน้าที่จาก กรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้ามาตรวจค้นร้านกัญชาภายในโรงแรมเดอะ เดวิส บางกอก ซ.สุขุมวิท 24 ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายชูวิทย์ แสดงอาการโกรธ และเข้าไปสอบถามเหตุผลจากเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงเพิ่งเข้ามาตรวจค้นหลังจากที่ตนพูดเรื่องกัญชา พร้อมกับยืนยันว่า ร้านค้าที่เช่าพื้นที่ของโรงแรมได้รับใบอนุญาตให้เปิดได้ตามกฎหมาย
นายชูวิทย์ ยังถามเจ้าหน้าที่อีกด้วยว่า การเข้าตรวจในครั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้สั่งให้มาตรวจสอบหรือไม่ พร้อมกล่าวหาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนายอนุทินคือนายเนวิน ชิดชอบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข ได้ตอบกลับว่าไม่มีความเห็นเรื่องนี้ มาตรวจสอบตามหน้าที่เท่านั้น จากนั้นนายชูวิทย์ได้เปิดภาพนายอนุทิน และหน้าของนายเนวิน ว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่
จากนั้นนายชูวิทย์ได้ใช้มือกวาดสินค้ากัญชาต่างๆ ที่วางบนเคาน์เตอร์ตกลงบนพื้น และใช้เท้าเหยียบ และกล่าวว่าตนถูกกลั่นแกล้งหลังเปิดโปงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่เกี่ยวกับเงินทอน 3 หมื่นล้าน และเมื่อพูดถึงเรื่องกัญชา ก็ได้ส่งคนมาตรวจสอบร้านโดยทันที นายชูวิทย์ยังยืนยันอีกว่า ตนเองจะพูดเรื่องโทษของกัญชาต่อไป และหากจะหาเรื่องเพื่อมาปิดโรงแรมก็ขอให้ทำไป ส่วนใครที่ได้ผลประโยชน์จากรถไฟฟ้าสายสีส้มก็แช่งขอให้ฉิบหาย
นายชูวิทย์ ยังย้ำด้วยว่าไม่เคยกลัว ทุกเรื่องที่ตนเองออกมาเปิดเผยล้วนเป็นเรื่องจริง เพียงแต่ไม่ใครกล้าออกมาเปิดหน้า ซึ่งชีวิตของตนเองผ่านคุกตารางมาแล้วหลายรอบ และไม่กลัวที่จะต้องชนกับใคร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้รับใบสั่งจากใครให้เพื่อมาถล่มพรรคภูมิใจไทย ขออย่าโยงกับเรื่องการเมืองการเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่ทำคือการทักท้วงผลกระทบ และโทษของกัญชาที่มอมเมาเยาวชน แต่พรรคภูมิใจไทยกลับพูดถึงประโยชน์ ถ้ามีประโยชน์จริงทำไม พ.ร.บ.ถึงตีตกจากสภาฯ เป็นแค่กฎกระทรวงฯ
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ยังได้ท้านายอนุทินอีกว่า จะเปิดโปงเรื่องไหนก็ขอให้ทำเลย เพราะตนไม่ได้มีผลประโยชน์กับใคร และชี้แจงว่าร้านดังกล่าวเพิ่งมาเช่าเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ประมาณ 4 เดือน ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งเพิ่งจะมีมาวันนี้ หลังจากที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ตอนเช้า พอตอนบ่ายก็ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจทันที หรือนายอนุทินถนัดใช้อำนาจการเมืองกลั่นแกล้งผู้อื่น
ส่วนที่นายอนุทินบอกว่า ตนเองโทรหานายชูวิทย์เพื่อนัดทานข้าวนั้น ยืนยันว่าไม่เคยโทรหามีแต่นายอนุทินโทรมานัดทานข้าว เพื่อกล่อมให้ตนช่วยหาเสียงในกรุงเทพ พร้อมกับเสนอเงินให้ 50 ล้านบาท ซึ่งตนเองไม่ได้รับปากไป และผมบอกเงินไม่มีความหมาย แต่นายอนุทินกลับไปบิดเบือนบอกสื่อว่าตนเองเป็นคนโทรไปหา
นายชูวิทย์ ยังฝากทิ้งท้ายว่า หากยังใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชน และคนที่เห็นต่าง แต่จะมาขู่คนอย่างชูวิทย์ไม่ได้ ยืนยันจะไม่หยุดเปิดโปงเรื่องคอรัปชั่น และเรื่องกัญชาเป็นซีรี่ส์ต่อไป ย้ำตนไม่กลัวตายชีวิตทุกวันเหมือนแขวนบนเส้นด้ายสักวันตนเองก็ลงโลง จากนั้นนายชูวิทย์เดินไปเล่นเปียโนฝากถึงนายอนุทินให้รู้ผ่อนคลายอย่าหมกมุ่นแต่กับการเมือง
ขณะที่นายโบ้ เจ้าของร้านคาเฟ่กัญชา ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ของนายชูวิทย์ ระบุว่าตนเองเข้ามาขอเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านคาเฟ่กัญชา โดยเช่าเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งร้านตนเองมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบมาก่อน แต่วันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจโดยเข้ามาขอดูใบอนุญาตกับตนเอง ซึ่งก็ได้แสดงไปแต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งอะไร ก่อนจะกลับไป ซึ่งยืนยันว่าร้านดังกล่าวเป็นร้านของตนเองไม่ใช่ของนายชูวิทย์ มีสัญญาเช่าถูกต้องทั้งหมด
ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่ามีเด็กเยาวชน เข้ามาใช้บริการ นายโบ้ยืนยันว่าถ้าตนเองอยู่ที่ร้านจะไม่อนุญาตให้เด็กใช้บริการ ตามกฎของกระทรวงฯ แต่ถ้าวันที่ตนเองไม่ได้เข้าร้านตนเองไม่สามารถตอบได้ พร้อมยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้หากผิดก็พร้อมจะปิดร้านทันที