“เอิร์ธ พงศกร” เปิดใจหลังเปิดตัวกับ “ประชาธิปัตย์” ชู เป็นสถาบันการเมืองอย่างแท้จริง
วันนี้ (27 ก.พ. 66) นายพงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษกกรุงเทพมหานคร ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตัดใจลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า อยากทำงานการเมืองโดยเฉพาะการผลักดันนโยบายด้วย 3 เหตุผลหลักประกอบด้วย ต้องเป็นพรรคที่มีความเข้าใจ และผูกพันกับ กทม. ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีทั้ง 2 ส่วน มาอย่างยาวนาน อาทิ ส.ก. ,ส.ข. ,ส.ส. จนไปถึงผู้ว่าฯ รวมทั้งมีเครือข่าย และความเข้าใจที่ค่อนข้างสูง
ต่อมา คือพรรคที่มีความเป็นสถาบันทางการเมือง ซึ่งคนที่จะสามารถพูดได้ทุกเรื่อง และคนในพรรครับฟัง คือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคทางเลือกของสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง
ส่วนสุดท้าย คือในหลายๆ เรื่องจะต้องใช้ระยะเวลาแก้ไข ดังนั้นหากการเข้าร่วมกับพรรคที่ไม่ได้เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง หรือพรรคเฉพาะกิจ อาจส่งผลให้มีปัญหาในหลายๆ อย่างในการผลักดันนโยบาย และพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มีปัญหาที่จุดนี้ เพราะพรรคมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และอยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด จึงมั่นใจว่าหากตนจะสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ตามที่ระบุไปนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถทำได้อย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี สาเหตุที่ไม่ไปร่วมงานกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ ผู้เป็นพ่อ ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพงศกร ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีแนวทางการเมืองอีกรูปแบบนึง ซึ่งตนกับพ่อ มีความเชื่อ และความคิดเห็นในเรื่องการเมืองที่แตกต่างกัน แต่เราทั้ง 2 คนมีความคิดเห็นที่ตรงกันคือ อยากทำให้ประเทศไทยดีขึ้นเหมือนนักการเมืองคนอื่นๆ ส่วนเรื่องการวางตัวผู้สมัคร ไม่ใช่ปัญหา เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติก็เคยมาชักชวนโดยผู้เป็นพ่อ แต่ตนเองก็ปฏิเสธ และได้ให้เหตุผลไป ซึ่งก็เข้าใจ รวมทั้งไม่ใช่ศัตรูต่อกัน เป็นเพียงการแข่งขัน ที่อยากจะนำเสนอนโยบาย และเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีให้ได้ของชาวคลองเตย – วัฒนา
นายพงศกร ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีพรรคการเมืองใหญ่ 5 จาก 6 พรรคที่มาชักชวนให้ร่วมงานกับพรรค แต่ไม่ขอพาดพิง ส่วนความมั่นใจในการแข่งขันกับสมาชิกพรรคอื่นในเขตคลองเตย – วัฒนา นั้น นายพงศกร ยืนยันว่าไม่ได้มั่นใจว่าจะชนะ แต่มั่นใจว่าตนจะทำอย่างเต็มที่เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนคลองเตย – วัฒนา และหากได้รับความเมตตา ตนก็เชื่อว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับชาวคลองเตย – วัฒนาได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้แนะนำอะไรสำหรับการลงสมัคร ส.ส. หรือไม่ นายพงศกร ไม่มีอะไรแนะนำเป็นพิเศษ บอกเพียงแค่ว่า ต้องขยันกว่าคนอื่น เพราะเป็นคนหน้าใหม่ และไม่ได้เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์สูงเหมือนกับคนอื่น และตัวคุณพ่อเองก็ยังให้ประสบความสำเร็จ แต่ก็ต้องช่วยพรรคของตัวของเองเช่นกัน
ส่วนในช่วงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ที่ระบุว่า การตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นั้นมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพงศกร กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ตนเคารพมากตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก และได้ปรึกษามาโดยตลอด ซึ่งในวันสุดท้ายของการตัดสินใจก็มีนายอภิสิทธิ์ที่เป็นส่วนสำคัญมากที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้ ส่วนการจะชวนมาช่วยหาเสียงหรือไม่นั้น ตนจะต้องไปปรึกษาอีกที เพราะนายอภิสิทธิ์ก็เคยเป็นอดีต ส.ส. ในเขตวัฒนา และให้คำแนะนำมาโดยตลอด
ส่วนความมั่นใจในกระแสของพรรค นายพงศกรระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้ ส.ส.ในพื้นที่ กทม. ดังนั้นกระแสพรรคอาจจะเสียเปรียบพรรคอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ก็ทำงานการเมืองจะต้องทำในสิ่งที่เราเชื่อ และคิดว่ามีประโยชน์มากที่สุดกับประชาชน ฉะนั้นตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะตอบโจทย์กับประชาชน
ทั้งนี้ นายพงศกร กล่าวอีกว่า ตนยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานการศึกษาทันสมัยพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นคนนึงของพรรคที่มาช่วยงาน กทม. ส่วนตัวคิดว่าไม่มีปัญหา และทำงานร่วมกันได้