‘มาริษ’ กำชับสถานทูตไทยในฝรั่งเศส ดูแลคนไทยในปารีสใกล้ชิด หลังเกิดเหตุป่วนสถานีรถไฟ
‘มาริษ’ กำชับสถานทูตไทยในฝรั่งเศสดูแลคนไทยในปารีสอย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุป่วนสถานีรถไฟในฝรั่งเศส ด้าน สถานทูตขออย่าตระหนก แต่เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง เข้า-ออก ปารีส และติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (26 ก.ค. 67) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการก่อเหตุวุ่นวายในฝรั่งเศส ก่อนการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงปารีส ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส อย่างใกล้ชิด และตนเพิ่งได้พูดคุยกับนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสแล้ว ทราบว่าในห้วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีการก่อเหตุเกิดขึ้นในหลายจุด แต่ทางฝ่ายฝรั่งเศสสามารถสกัดกั้นไว้ได้ และยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ แต่เหตุการณ์ล่าสุดที่มีการวางเพลิงสัญญาณของรถไฟที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ มั่นใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีการวางแผน และมีความเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อสร้างสถานการณ์ว่าการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก อาจจะมีความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้น ดังนั้นนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กำชับให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส คอยคุ้มครองดูแลคนไทยอย่างใกล้ชิด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกด้วยว่า จากการที่ได้หารือกับเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศสล่าสุด ขอให้คนไทยไม่ตื่นตระหนก แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง อย่างไรก็ดีการเผาสัญญาณรถไฟที่เกิดขึ้นจะทำให้การเดินทาง เข้า-ออก จากกรุงปารีสเกิดการติดขัดหรือล่าช้า ขณะนี้การรถไฟฝรั่งเศสกำลังเร่งแก้ไขปัญหา แต่กว่าที่สถานการณ์จะเรียบร้อยน่าจะเป็นวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567 นี้ ทำให้ในช่วง เสาร์-อาทิตย์ นี้อาจจะเกิดความขลุกขลักพอสมควร จึงขอให้คนไทยใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง เข้า- ออก รวมถึงในที่มีคนหมู่มาก
อย่างไรก็ดีหน่วยงานด้านความมั่นคงของฝรั่งเศสได้มีการหารือกันทุกวัน และได้เชิญตัวแทนของสถานเอกอัครราชทูตไทยเข้าร่วมรับฟังด้วย ดังนั้นสถานทูตจะรับทราบข้อมูลอย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ ขอย้ำว่าในชั้นนี้ยังไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวลแต่ขอให้เพิ่มความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมถึงจากเว็บไซต์ของสถานทูต ซึ่งมีเบอร์โทรศัพท์สำหรับการติดต่อในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอยู่ด้วย และเท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับผลกระทบแต่อย่างใด