“ก้าวไกล” เปิดนโยบายการศึกษา ลดอำนาจนิยม ลดชั่วโมงและวิชาเรียน-ลดภาระงานครูที่นอกเหนืองานสอน

TCAS ต้องเฉลยข้อสอบ คูปองเปิดโลก 2,000 บาท “วิโรจน์” ชี้ ลงทุน 4 พันล้านบาทเพื่อการศึกษา ถูกกว่าค่าซื้อเรือดำน้ำและเครื่องบินรบ

วันนี้ (26 เม.ย. 66) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร , นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ , นายปารมี ไวจงเจริญ (ครูจวง) ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และ นางสาวกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ (ครูจุ๊ยส์) อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงเปิดนโบายด้านการศึกษาของพรรคก้าวไกล “รวมพลังก้าวไกล ล่าการศึกษาล้าหลังข้ามศตวรรษ” ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่อย่างนักเรียน นิสิต และนักศึกษาเข้ารับฟัง

นางสาวกุลธิดา กล่าวว่า การศึกษาไทยมีอุปสรรค 3 ด้าน หลักๆ คือ ปัญหาอำนาจนิยมเรื้อรัง ถ้าก้าวไกลได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ครูที่ละเมิดสิทธินักเรียนจะถูกพักใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งปัจจุบันมีกลไกอยู่ แต่ไม่ถูกใช้จริง รวมถึงกฎ-กิจกรรมของโรงเรียนต้องอยู่ในหลักสิทธิมนุษยชน ครูมีหน้าที่สอนเท่านั้น ปฏิรูประบบราชการเพื่อลดงานธุรการของครู ปฏิรูปหลักสูตรผลิตครูในไทย ให้มีวิชาจิตวิทยาเชิงบวก เพื่อลดอำนาจนิยมลง

ต้องสร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองว่าเด็กแต่ละช่วงวัยต้องการอะไร รวมถึงเพิ่มนักจิตวิทยาเพื่อให้คำปรึกษากับวัยรุ่น เพราะบ้านอาจไม่ใช่ที่ปลอดภัยเสมอไป และสภานักเรียนมีส่วนร่วมในการบริหารงบสถานศึกษา สร้างเครือข่ายสภาเยาวชนที่ส่งต่อประเด็นต่างๆ ไปยังรัฐสภาได้จริง

เงินรายหัวอุดหนุนนักเรียน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของงบที่รัฐบาลจัดสรรให้กระทรวงการศึกษา จะคำนวณจากจำนวนนักเรียนและความต้องการทรัพยากรของโรงเรียนต่างๆ มากกว่าถัวเฉลี่ยเท่ากันทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างสถานศึกษาขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

นอกจากนี้ยังมี คูปองเปิดโลก 2,000 บาท เพื่อให้เด็กใช้เพิ่มพูนประสบการณ์ความรู้นอกโรงเรียน

ด้านนายปารมีกล่าวว่าถ้าหากประเทศแก้ไขการศึกษาไม่ได้ ก็แก้ไขปัญหาประเทศไม่ได้ ทางก้าวไกลต้องการทะลายหลุมความเจ็บปวดด้านการศึกษาของประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมา โดยเปิดรับฟังความเห็นจากนักเรียนและเพื่อนครู ออกมาเป็นนโยบาย

ระบบ TCAS พบว่าข้อสอบผิดทุกปี ผู้ออกข้อสอบหรือ ทปอ.ไม่เคยต้องรับผิดเลย ทั้งที่เป็นศูนย์รวมของปัญญาชน แล้วจะเป็นต้นแบบให้เยาวชนได้อย่างไร การออกข้อสอบผิดพลาดได้เพราะเกิดจากคน ครูและนักเรียนไม่ได้ต้องการจับผิด ทปอ. แต่ต้องการอุดรูโหว่ ทำให้มันดีขึ้น อย่างปีก่อนพบข้อสอบผิดในวิชาสังคมศึกษาและวิชาภาษาญี่ปุ่น ทางทปอ. บอกว่า ข้อสอบผิดเหมือนกันทุกฉบับทั้งประเทศ โดยเฉพาะข้อสอบภาษาญี่ปุ่น ซึ่งตนเองเป็นคำตอบที่ไม่ดีเลย

ข้อสอบ ทปอ. ทุกวิชาไม่เคยเฉลยต่อสาธารณะมาหลายสิบปี ทางก้าวไกลยืนยันว่าต้องเปิดเผยข้อสอบและออกเฉลยเพื่อความโปร่งใส

นอกจากนี้ค่าสอบ TCAS ยังไม่เอื้อต่อผู้ไม่มีความพร้อม คิดรวมๆ กันแล้วเป็นเงินหลักพันบาท หากเด็กที่ยังลังเลไม่ทราบว่าจะไปทางไหน ก็ต้องสอบหลายวิชา ทำให้เสียเงินเพิ่มขึ้น และนี่ยังไม่รวมค่าสมัครราคา 200-600 บาท ระบบ TCAS จึงปิดกั้นเด็กยากจน ซึ่งทางก้าวไกลเสนอให้ ทปอ.ลดค่าสอบและค่าสมัครรวมกันไม่เกิน 500 บาท

ปัญหาของเพื่อนครูและนักเรียนที่ได้ฟังมา หลักๆ คือปัญหาของหลักสูตรที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 แต่โลกล้ำสมัยไปมาก หลักสูตรที่ใช้มา 15 ปี ไม่ตอบโจทย์แล้ว เก่าและล้าหลังมาก พรรคก้าวไกลจึงมีนโยบายร่างหลักสูตรการศึกษาใหม่ เป็นหลักสูตรที่ไม่อยู่ในมือของนักวิชาการกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป แต่เป็นหลักสูตรที่ร่างร่วมกันระหว่างเด็ก ผู้ปกครอง และนักวิชาการ เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ทันสมัย ทันโลก นอกจากนี้ยังลดวิชาเรียนและชั่วโมงเรียนลง แต่เพิ่มวิชาทางเลือกมากขึ้น โดยดูตัวอย่างเช่นประเทศฟินแลนด์ หรือประเทศอื่นๆ ที่พัฒนาแล้ว ที่มีเรียนแค่ช่วงเช้า ส่วนตอนบ่ายเป็นวิชาทางเลือกหลายๆ อย่าง เช่น วิชาว่ายน้ำที่ช่วยชีวิตเด็กได้ และควรเรียนตั้งแต่ประถมต้น หรือ วิชาอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) เป็นต้น

อยากฝากไปถึงเพื่อนครูว่า ถึงแม้วงการศึกษาไทยมีหลุมดำ แต่จริงๆ แล้วยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ ครูรุ่นใหม่ยังมีไฟ แต่พวกเขาถูกกดทับด้วยระบบบางอย่างที่ล้าหลังของการศึกษาไทย ไม่ว่าจะเป็นงานศึกษา งานธุรการ หรือ งานประเมิน ซึ่งแย่งเวลาสอนของครูไทยไป

ส่วนนายวิโรจน์ กล่าวว่า นิยมการศึกษาของก้าวไกลคือ การเติมเต็มศักยภาพของคน ให้แข่งกับพลโลก นานาอารยประเทศได้ ไม่ใช่นิยามการศึกษาในกรอบของรั้วโรงเรียน

ที่ผ่านมา รัฐบาล 7-8 ปี ผลักความอัตคัตขัดสนของครอบครัวไปให้ปัจเจกและครอบครัว ทางก้าวไกลคิดว่าเด็กในประเทศนี้ไม่ว่าจะเกิดในครอบครัวแบบไหน พวกเขาคือเด็กที่เราต้องดูแล เพราะเด็กเหล่านี้ต้องโตมาเป็นพลเมือง และนั่นคือที่มาของเบี้ยดูแลเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน

นอกจากนี้ ต้องเพิ่มเงินอาหารกลางวัน เราจะไม่เจอรัฐมนตรีที่พาลูกมากินไข่ต้มโชว์แน่ๆ และทางก้าวไกลจะจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นให้จัดหารถรับส่งนักเรียน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และจะใช้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเข้ามาช่วยให้เด็กไทยได้เรียนฟรีทุกคน

“หากต้องลงทุนการศึกษา 4,000 ล้านบาท ก้าวไกลมองว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับค่าซื้อเรือดำน้ำและค่าที่จอดเครื่องบิน F-35 50,000 ล้านบาทของกองทัพ”

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารั้วมหาวิทยาลัยผลิตปริญญาเพื่อให้เด็กไปสมัครงาน ขณะที่ในต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเป็นคลังปัญญา สามารถส่งต่อนโยบายสาธารณะไปยังฝ่ายบริหารประเทศได้ แต่เมื่อดูงบสนับสนุนงบวิจัยมหาวิทยาลัยของรัฐบาลไทย พบว่าไม่ถึงร้อยละ 1 ของ GDP ในทางกลับกัน ถ้ารัฐบาลไทยนำปัญหาต่างๆ มาตั้งเป็นโจทย์ และสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมจากนักลงทุนและมหาวิทยาลัย เพื่อมาแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ จะสามารถทำให้ไทยมี know-how การผลิตเป็นของตัวเอง และยังทำให้โจทย์เรื่องการศึกษาของไทยไปไกลกว่าอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย

ในงานนี้ยังมีแฟนคลับตัวน้อยของพรรคก้าวไกล น้องเก้า จากจังหวัดราชบุรี ตั้งคำถามกับนายวิโรจน์ ว่าก้าวไกลสามารถปฏิรูปการศึกษาได้หรือไม่ โดยเฉพาะวิชาหน้าที่พลเมืองที่ครูสอนว่า หากให้เลือกระหว่างผู้นำที่เป็นประชาธิปไตยแต่คอร์รัปชั่น กับผู้นำที่เป็นเผด็จการแต่มีคุณธรรม ให้เลือกผู้นำเผด็จการ ซึ่งน้องเก้ารู้สึกขัดกับความรู้สึก

นายวิโรจน์ ตอบว่า ต้องแก้ไขหลักสูตรการศึกษา หนังสือที่เขียนเนื้อหาแบบนี้ทั้งหมดต้องถูกรื้อ เนื้อหาต้องโอบรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ยัดเยียด เปิดพื้นที่ให้เด็กเชื่อมโยงกับวงการวิชาชีพ เปิดพื้นที่ให้ตีความเนื้อหาได้ นอกจากนี้ หากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะต้องคืนเสรีภาพทางวิชาการให้กับครูอาจารย์ด้วย