‘ณัฐพงษ์‘ ชี้ ไม่กังวล หาก ’ทักษิณ’ จะเอาคืน เตรียมโรยเกลือต่อ ปม เลี่ยงภาษี – ที่ดินเขาใหญ่

‘ณัฐพงษ์‘ มั่นใจเสียงใน ปชน. ไม่ไว้วางใจ ’แพทองธาร’ แน่ ส่วนฝ่ายค้านอื่น อาจคุมไม่ได้ เผย ไม่พอใจ นายกฯ – รัฐบาลแจง ชี้ ไม่กังวล หาก ’ทักษิณ’ จะเอาคืน บอก ต้องรอดู เตรียมโรยเกลือต่อ ปม เลี่ยงภาษี – ที่ดินเขาใหญ่

วันนี้ (26 มี.ค. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในช่วง 10:00 น. วันนี้ ว่า ตนเองไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพราะมั่นใจในเพื่อนร่วมพรรคทุกคนว่าจะลงมติในทิศทางเดียวกัน แต่ในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ๆ เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคไปกำกับเสียงในพรรคตนเอง

ส่วนภาพรวมการอภิปรายตลอดทั้ง 2 วัน ถือว่าน่าพอใจหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ก็ทั้งพอใจ และไม่พอใจ เราพอใจในการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค และทุกคน ส่วนที่อาจจะยังไม่พอใจอยู่ คือคำชี้แจงของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้าย ก่อนที่จะจะมีการปิดการอภิปรายเมื่อวาน
ค่อนข้างชัดว่าเรายังมีหลายข้อสงสัยที่ใเอนายกรัฐมนตรีเองยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ที่จะแก้ข้อกล่าวหาของตัวเองในสภา

ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมาระบุว่ามีงูเห่าในฝ่ายค้าน 10 คน นั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่าตนเองมั่นใจในส่วนของพรรคประชาชน ส่วนพรรคฃอื่น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรคที่จะกำกับดูแล ตนเองคงจะไปก้าวก่ายของพรรคอื่นไม่ได้ เพราะว่าวิธีการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน กับพรรครัฐบาลตรงข้ามกัน ในแง่ที่ว่าถ้าใครที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน ก็คือไม่ได้อยู่ในพรรครัฐบาล เพราะฉะนั้น ในการควบคุมเสียงการโหวตของพรรคฝ่ายค้าน ก็เป็นหน้าที่ของผู้นำแต่ละพรรค

เมื่อถามว่าทิศทางในการโหวตของพรรครวมฝ่ายค้าน จะไปในทิศทางเดียวกันใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคุยกันเรื่องเนื้อหาของกรอบญัตติ และระยะเวลา ทิศทางในการนำอภิปรายก็มีการคุยในภาพกว้าง ไม่ได้ลงในรายละเอียด ส่วนทิศทางการโหวต ตนเองก็ว่าทุกคนรู้อยู่อยู่แล้ว ว่าในการเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบ อย่างไรก็ต้องโหวตไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ตนเองก็ไม่ได้มีกลไกที่จะไปกำกับเสียงการโหวตของพรรคอื่น ๆ ได้

ส่วนมีความกังวลหรือไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะเอาคืนเกมฝ่ายค้าน เพราะนายกรัฐมนตรีก็เรียกประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ก็ต้องดูว่าจะเอาคืนแบบไหน เพราะเราก็ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้กังวลอะไร

ส่วนปฏิบัติการโรยเกลือ ที่จะไปยื่นต่อหน่วยงานต่าง ๆ ให้ตรวจสอบนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่า อย่างเร็วที่สุด ความพยายามเป็นการบริหารภาษีเรื่องนี้นายกฯ ออกมาตอบชี้แจงหลังจากที่เรามีการเปิดประเด็นในสภา ก็ชี้ชัดเห็นแล้วว่าควรจ่ายแต่แรก เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาอาจไม่มีการเปิดข้อมูล ก็เลยยังไม่ยอมจ่าย เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่อดีตอธิบดีกรมสรรพากร บอกว่าสามารถทำได้ อาจจะเป็นช่องว่างทางกฎหมายในด้านหนึ่ง เราจะมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น มองว่า เป็นนักการเมืองที่เป็นนายกฯ ไม่สมควรที่จะหลบเลี่ยงภาษีที่ต้องจ่ายตั้งแต่แรก ส่วนเรื่องโรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่ ยังมีการโต้เถียงกันเรื่องที่ดินและใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงแรม ซึ่งตนจะติดตามต่อไป

สำหรับกรณีชั้น 14 ตนเองคิดว่าการอภิปราย ก็แสดงให้เห็นชัดว่านายกฯ อยู่ในฐานะที่เป็นพยานรู้เห็นตั้งแต่แรก รู้สถานะของคุณพ่อมาตั้งแต่แรก ประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยไม่ว่าจะ กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม เอาเรื่องแผนการประเมินที่บอกว่านายทักษิณได้ 9 คะแนน เราก็ต้องข้อสงสัยว่าจากสถานะขั้นตอนนั้นของนายทักษิณ ซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นคนเดียวเท่านั้นที่สามารถตอบได้ว่า ตกลงคุณพ่อป่วยเป็นโรคอะไร ที่ทำให้การประเมินต่ำขนาดนั้น และเราก็เห็นว่าในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา นายทักษิณ ก็สามารถออกมาสู่สาธารณะได้ เป็นสิ่งที่เราถามมาโดยตลอด และอยากให้นายกรัฐมนตรี ออกมาตอบให้ชัด ๆ ว่าคุณพ่อเป็นโรคอะไรกันแน่ที่ทำให้ได้รับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอื่น ๆ ไปอยู่ในชั้น 14 ได้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากนายทักษิณตอบโต้กลับ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร รอดูการตอบโต้ว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าที่บอกว่าดีลแลกปีศาจ คำว่าปีศาจหมายถึงใคร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ชนชั้นนำในสังคมที่เอารัดเอาเปรียบคนในสังคม และใช้อำนาจอิงแอบกับกลุ่มทุนและพวกพ้องของตนเอง โดยไม่ได้สนใจประโยชน์ของคนส่วนใหญ่

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเปรียบเทียบการอภิปรายของพรรคประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในครั้งนี้เหมือนเอาข่าวมาเล่ามากกว่าเอาข้อมูลลับมาเปิดเผย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนมองว่ามีเนื้อหาหลายอย่างที่เป็นเรื่องใหม่ เช่น เรื่องปฏิบัติการ IO ของนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. ซึ่งโดนทักท้วงจนไม่สามารถนำเสนอได้รอบด้าน เป็นข้อมูลใหม่ที่ระบุว่ากองทัพมองนักการเมืองทุกกลุ่มเป็นภัยต่อความมั่นคง ไม่ใช่แค่พรรคประชาชน ซึ่งโดนกล่าวหามาโดยตลอด จึงเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพ แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดนี้