POLITICS

ชาวนาเตรียมรับเงินส่วนต่างงวดที่ 20 ‘ข้าวเปลือกเจ้า’ สูงสุด 48,485 บาท

วันนี้ (26 ก.พ. 65) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืช 5 ชนิด คือ ข้าวยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ล่าสุด มีรายงานจากนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ระบุว่า ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 20

โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 18-24 ก.พ. 65 จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ต้องจ่ายชดเชยแล้ว เพราะสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว

สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 20 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 11,815.28 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,184.72 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 10,280.55 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 719.45 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,383.83 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,616.17 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 9,834.41 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,165.59 บาท

ในจำนวนนี้ จะมีเกษตรกรบางส่วนได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 20 สูงสุด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 34,955.52 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 17,986.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 48,485.10 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 34,649.44 บาท

โดยการจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ในปีที่ 3 หลักการเดิมคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเช่นเดียวกับปี 1 และปี 2 ซึ่งกรรมการประกาศวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันศุกร์ ติดวันหยุดราชการเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น ธ.ก.ส.จะต้องกดจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงสัปดาห์หน้าไม่เกินวันพุธเป็นเบื้องต้น

Related Posts

Send this to a friend