‘โรม‘ ถาม “จากนายกฯ พ่อ สู่นายกฯ ลูก จะส่งสัญญาณละเลยความเจ็บปวดของประชาชนอีกหรือไม่”

วันนี้ (25 ต.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา เป็นประธานการประชุม นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ขึ้นอภิปรายสนับสนุนเสนอญัตติกรณีคดีตากใบ ว่า สิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้มันมีถ้อยคำสำคัญอยู่อย่างหนึ่งที่เรียกว่าความจริงใจ และคือหัวใจที่สำคัญที่ไม่ใช่เพียงกรณีตากใบเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสตั้งกระทู้ถาม นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดูแลด้านความมั่นคง กำกับดูแลตำรวจ โดยช่วงเวลานั้นท่าทีหรือคำตอบของนายภูมิธรรม เป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ต่อคุณลักษณะของท่าทีการถามเท่านั้น จนแทบไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย หรือเห็นถึงความจริงใจอะไรเลยของรัฐบาลนี้ในการดับไฟใต้อย่างจริงจัง ที่จะทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายที่สูญเสียกรณีตากใบแม้แต่น้อย ซึ่งในการตั้งกระทู้ถามครั้งนั้น ไม่ใช่แค่โอกาสของผู้ถามที่จะได้รับคำตอบ แต่รวมไปถึงความชัดเจน และความจริงใจของประชาชนที่อยู่นอกสภาฯ และโอกาสของรัฐบาลที่จะได้พิสูจน์ตัวเองว่า มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาดับไฟใต้อย่างที่ท่านพูดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา “การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูด แต่ไม่ได้หมายความว่าคำพูดคือสิ่งที่ไม่มีความสำคัญเลย”

อีกทั้ง นายภูมิธรรมยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมสำคัญกว่า ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะมาเลือกว่าเหตุการณ์ไหนสำคัญกว่า เพราะสำหรับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สิ่งที่พวกเขากำลังเจอล้วนสำคัญทั้งนั้น รัฐบาลส่งสัญญาณถึงความจริงใจบ้างหรือไม่ รวมทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดเป็นนัยยะ ว่าทำไมมาฟ้องตอนนี้ตอนที่คดีใกล้จะหมดอายุความ กลายเป็นว่าเหยื่อผู้สูญเสียกลายเป็นแพะ ถูกตราหน้าต่อสังคม กลายเป็นคนที่ถูกโยนบาปว่า พวกเขามีจุดมุ่งหมายบางอย่างที่จะทำลายรัฐบาล จึงเกิดคำถามว่านี่หรือคือความจริงใจที่รัฐบาลมอบให้

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าอดีตนายกฯ ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้น แต่เหตุการณ์การชุมนุมจนนำไปสู่การขนคน จึงเกิดคำถามว่าท่านไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาดในการบริหารจัดการ ซึ่งวันนี้จากนายกฯ ผู้พ่อมาสู่นายกฯ ผู้ลูก เราจะส่งสัญญาณถึงการละเลยความเจ็บปวดของประชาชนอีกหรือไม่ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแค่กรรมาธิการแต่เป็นเรื่องของความจริงใจที่รัฐบาลจะส่งถึงประชาชน

ถ้าเราจะเดินหน้าต่อไป รัฐบาลต้องตอบ 3 คำถามที่ตนจะฝากให้รัฐบาลได้คิด คือ

1.ท่านต้องตอบให้ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มีอดีตนายกฯ อยู่ ทำไมถึงไม่ใช้อำนาจหน้าที่ และปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นได้

2.หลังจากนี้คงหมดอายุความ ปาฏิหาริย์ที่เราหวังว่าจะมีการเข้าสู่กระบวนการยื่นทำคงให้เกิด ซึ่งเราจะมีกระบวนการหรือนโยบายอย่างไรที่จะมั่นใจได้ว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยจะไม่เป็นแบบนี้อีก และจะทำอย่างไรให้พี่น้อง

3.จังหวัดชายแดนใต้มั่นใจ และพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของประเทศได้ และข้อสุดท้ายคือ แนวทางการบริหารดับไฟใต้ของรัฐบาลนี้ และรัฐบาลที่ผ่านมา แทบไม่มีความแตกต่างกัน จึงขอให้ช่วยสร้างความแตกต่าง หรือนำเสนอนโยบายการดับไฟใต้ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง ที่ทำให้รู้สึกถึงความจริงใจของรัฐบาล

“ตราบใดที่เราไม่สามารถสร้างความหวังและความจริงใจให้กับประชาชนรู้สึกได้ ไฟใต้ก็มีแต่จะโหมกระพรือ และสิ่งที่ท่านได้พูดในช่วงเวลาที่ผ่านมามันได้จุดไฟนั้นอีกครั้ง ใช้โอกาสนี้แก้ไขในสิ่งที่ผิด อย่าปล่อยให้ไฟใต้เป็นแบบนี้อีกต่อไป“ นายรังสิมันต์ กล่าว