‘กัณวีร์‘ ชี้ รัฐบาลตั้งสมการแก้ปัญหาชายแดนใต้ผิด แนะ ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ – ยกเลิกกฎหมายพิเศษ – ปฏิรูประบบราชการ
วันนี้ (25 ต.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม ลุกขึ้นอภิปรายว่า เหตุการณ์ที่หน้า สภ. ตากใบ คงไม่ใช่เหตุการณ์แรก และคงไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้าย ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ หรือหลายพื้นที่ในประเทศไทย เรามองเห็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมว่าหลายครั้ง ผู้กระทำความผิดยังไม่สามารถจับมาดำเนินคดีได้ จำเลยทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่สามารถ และไม่กล้ายืนต่อหน้าบัลลังก์ ต่อศาลยุติธรรมได้ เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นตลอดไปเรื่อย ๆ ในประเทศประเทศไทย
นายกัณวีร์ ยังตั้งคำถามว่า ที่ผ่านมา เราตั้งสมการผิดหรือไม่ 20 กว่าปีที่ผ่านมา เราเห็นงบประมาณ 5 แสนกว่าล้านบาทที่ลงไป โดยใช้สมการที่ผิดพลาด ส่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายออกมาให้เราเห็นว่า ปัจจุบันนี้ เงินงบประมาณที่ลงไป ยังไม่สามารถนำมาซึ่งสันติภาพได้
นายกัณวีร์ ระบุว่า พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังรู้สึกถึงความไม่เป็นหนึ่งเดียว และการมีส่วนร่วมของพวกเขาในกระบวนการสร้างสันติภาพ สถานการณ์เหตุการณ์ตากใบ จะย้ำเตือนให้เห็นว่า กระบวนการสร้างสันติภาพนี้ จำเป็นต้องดึงเขาเหล่านั้นมามีส่วนร่วม และเป็นผู้นำในการสร้างสันติภาพในพื้นที่ของเขาเอง เราได้ฟังได้ยินจากหลายคนว่ามีกระบวนการทำงานตลอด 20 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และปัจจุบันมีกลไกเป็นการพัฒนาเกิดขึ้นผลลัพธ์เป็นอย่างไรเราต้องยอมรับว่ามันใช้ไม่ได้ ซึ่งก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หากที่ผ่านมาผลลัพธ์ผิดพลาดเราจึงต้องเปลี่ยนสมการใหม่
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เที่ยงคืนนี้ เราคงไม่สามารถมีปาฏิหาริย์ได้จริง ๆ สิ่งที่ต้องทำในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ จะต้องเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ได้จริง ๆ ต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราจะทำอย่างไรหากวันพรุ่งนี้ เราไม่มีการนำจำเลยทั้งหมดเข้ามายื่นต่อหน้าศาล ตนเองขอเสนอไปยังรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดังนี้
1.ยกระดับเรื่องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับชายแดนใต้ให้เป็นวาระแห่งชาติ อย่างแท้จริง อย่างจริงใจ การสร้างสันติภาพที่แท้จริง คือการนำมาซึ่งความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่การนำมาซึ่งการเอาโครงการ หรือแผนงาน กฎหมายจากส่วนกลางไปใช้ในพื้นที่ ต้องดึงประชาชนมามีส่วนร่วมในการพูดคุยสันติภาพ
2.ยกเลิกกฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก กฎหมายการฟ้องปิดปาก ต้องพิจารณาให้เร็วว่าต้องยกเลิกอย่างไร ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกว่าไม่ถูกกดทับอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ มีพื้นที่ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
3 .ปฏิรูประบบราชการ ที่ต้องรีบทำ และทำให้ได้ โครงสร้างระบบราชการที่มีอยู่ปัจจุบันนี้ ใช้ไม่ได้ 20 ปีมาแล้ว ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น มีแต่สร้างรากเหง้าปัญหา