‘กมลศักดิ์’ ชี้ อาจเป็นเงื่อนไขสร้างความขัดแย้งใหม่ หากปล่อยคดีตากใบหมดอายุความ
วันนี้ (25 ต.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา เป็นประธานการประชุม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายถึงเหตุผลการยื่นญัตติด่วนว่า เรื่องนี้น่าเป็นห่วง ไม่ใช่เฉพาะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างระเบิดคาร์บอม สำคัญที่สุดคดีตากใบไม่อยากให้เป็นเรื่องของพรรคประชาชาติพรรคเดียว แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องแสดงความเห็นไปยังฝ่ายบริหาร ในฐานะที่อยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ตากใบเป็นเรื่องหนึ่งที่พรรคประชาชาติมองว่าจะนำไปสู่เงื่อนไขใหม่ เป็นเรื่องที่มองว่าเราได้บทเรียนอะไรบ้าง ตอนนี้มีการเบี่ยงเบนหลายประเด็น เช่น ทำไมพึ่งมาฟ้อง ซึ่งแม้จะรับเงินเยียวยาไปแล้วแต่ในแง่กฎหมาย คดีอาญาไม่ระงับ การที่บอกว่าประชาชนลุกขึ้นต่อสู้ฟ้องคดีเป็นแนวร่วม กำลังสื่อว่าประชาชนที่ไปชุมนุมที่ตากใบกว่า 1,000 ราย ที่ถูกเคลื่อนย้ายไปค่ายอิงคยุทธเป็นพวกแนวร่วม ซึ่งเป็นการเบี่ยงประเด็น และจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นอีก จึงเป็นที่มาที่เราแสดงมาตลอดว่าให้ฝ่ายบริหารเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
นายกมลศักดิ์ กล่าวต่อว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รับฟัง ต้องเปลี่ยนทัศนคติ การต่อสู้ของประชาชนจากการลุกขึ้นฟ้องคดีนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาวมลายูในพื้นที่ ก่อนหน้านี้การเสียชีวิตที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่มีมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีประชาชนใช้กฎหมายลุกขึ้นต่อสู้ นี่คือครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่อดีตแม่ทัพ ผู้บริหารระดับสูง ถูกออกหมายจับ ดังนั้น อยากให้สภาแห่งนี้สะท้อนให้ผู้ปฏิบัติงานปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่
“การที่เขาหันหน้ามาต่อสู้ ไม่ได้จับปืนต่อต้านอำนาจรัฐ แต่เอากฎหมายมาต่อสู้ตามกระบวนการที่ถูกต้อง ตามรัฐธรรมนูญ อย่าไปใส่ความเขาว่าเป็นโจร อย่าไปใส่ความเขาว่าเป็นแนวร่วม ถ้าตราบใดที่มีความรู้สึก หรือทัศนคติเช่นนี้ ปัญหาในชายแดนใต้ไม่จบสิ้น จะทุ่มเทงบประมาณแค่ไหนก็ไม่ใช่“ นายกมลศักดิ์ กล่าว
นายกมลศักดิ์ ระบุว่า ตอนนี้เหลือเวลาที่จะมามอบตัวเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยให้ความรู้สึกว่าประชาชนในพื้นที่ที่ขณะนี้อยู่ในความหวาดระแวง กลัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เงนั้น ช่วยคลี่คลายสถานการณ์โดยการเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่
นายกมลศักดิ์ ยังขอบคุณ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อยากให้ครอบครัวของผู้สูญเสียมีความรู้สึกว่าไม่สูญเปล่ากับการที่ลุกขึ้นมาฟ้องคดีนี้ ช่วยแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 ว่าด้วยอายุความ แสดงให้เห็นความจริงใจมากขึ้น เพราะคำขอโทษก่อนหน้านี้เคยได้ยินมา 2 ครั้งแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่กรณีตากใบ แต่รวมถึงคดีอื่นที่ไม่ให้ขาดอายุความ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยบรรเทาคลี่คลายปมความรู้สึกเจ็บปวดเรื่องอายุความได้