POLITICS

‘อดิศร’ จี้ ก้าวไกล เลือกผู้นำฝ่ายค้านฯ หรือรองประธานสภาฯ

กอดไว้ 2 เก้าอี้ไม่ได้ ยืนยันหาก ‘หมออ๋อง’ ถูกขับออกจากพรรค จะไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เหตุเคยโหวตให้ ชี้เป็นเสียงที่สง่างาม

นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมวิปรัฐบาลว่า เป็นไปตามวาระปกติ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายจากคณะรัฐมนตรี แต่ได้ส่งสัญญาณไปทางคณะรัฐมนตรีว่าฝ่ายกฎหมายของทุกกระทรวง ทบวง กรม ควรเสนอกฎหมายมายังสภาฯ รวมถึงกฎหมายสำคัญต่าง ๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชามติ ซึ่งควรจะได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะที่เข้าใจง่าย โดยคณะรัฐมนตรีถือเป็นการนับ 1 ทางวิปรัฐบาลนับ 2 จึงต้องทำให้เข้าใจง่าย และทำให้การประชุมมีรสชาติ

นอกจากนี้ ในที่ประชุมวิปรัฐบาลยังพิจารณาบุคคลเป็นคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 5 คน ซึ่งรอเพียงฝ่ายค้าน พร้อมย้อนถามกลับจากสนามไทย-ญี่ปุ่นหรือยัง อยากให้ฝ่ายค้านรีบส่งตัวแทน 5 คน มาเป็นคณะกรรมการประสานงานฯ เพื่อให้การประสานงานของทั้ง 2 ฝ่ายดำเนินการต่อไป ส่วนพรรคก้าวไกลจะเลือกผู้นำฝ่ายค้านฯ หรือรองประธานสภาคนที่ 1 ให้แจ้งวิปรัฐบาลทราบด้วย

นายอดิศร กล่าวอีกว่า พรรคก้าวไกลต้องเลือกว่าจะเอาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯ หรือรองประธานสภาฯ คนที่ 1 จะเลือกไว้ทั้ง 2 ตำแหน่งไม่ได้ ยกเว้นจะเล่นปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ซึ่งเป็นนิติกรรมอำพราง ทั้งนี้ ตนขอส่งความปรารถนาดี เนื่องจากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เวลาขึ้นบัลลังก์สามาถทำงานได้ดี ขณะเดียวกันก็อยากได้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพราะบทบาทของผู้นำฝ่ายค้านฯ เป็นบทบาทที่มีสาระสำคัญของประเทศชาติ และยินดีต้อนรับนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ ทราบว่าจะมีการเจรจากับนายปดิพัทธ์ในสัปดาห์นี้ จึงขออวยพรให้ประสบความสำเร็จทั้ง 2 คน แต่คงต้องมีคนผิดหวัง 1 คน

นายอดิศร กล่าวถึงประเด็นที่ถูกถามว่า หากมีการขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคก้าวไกลเพื่อคงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ไว้ ทางวิปรัฐบาลจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ โดยนายอดิศร ระบุว่า จะไม่แทรกแซง เพราะตนเป็นคนเลือกนายปดิพัทธ์เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 จะไม่ตีความคนที่เราเลือกไป และยังเคารพเสียงตอนที่เลือกนายปดิพัทธ์ว่า เป็นเสียงที่สง่างาม

พร้อมกันนี้ นายอดิศร รับหนังสือจาก นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่ยื่นร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเคยยื่นไปในสมัยประชุมที่แล้วก่อนที่จะยุบสภา จึงมายื่นให้วิปรัฐบาลยื่นต่อสภาฯ เพื่อดำเนินการต่ออีกครั้ง โดยมีเนื้อหานิรโทษกรรมคดีทางการเมืองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งหรืออาญา ยกเว้นคดีทุจริตและคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat