POLITICS

‘ศิริกัญญา’ บอก มันจบแล้ว รัฐบาลบริหารเศรษฐกิจไม่เก่งจริงเหมือนที่โอ้อวด

ชี้ ‘แพทองธาร‘ บริหารพลาด ทำประชาชนคิดถึง ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เผย ความสำเร็จในอดีตได้มาเพราะโชคช่วย

วันนี้ (25 มี.ค. 68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า ขอบคุณนายกฯ ที่ทำให้คนทั้งประเทศตาสว่างว่ารัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งกาจด้านเศรษฐกิจ

ความสำเร็จในอดีตที่ได้มาเพราะที่โชคช่วยตอน นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าแย่แล้ว วันนี้แย่ยิ่งกว่า ถึงแม้จะมีนายกแพ็คคู่มากกว่า 7 เดือน แต่เห็นกันชัด ๆ ว่าไม่ได้เก่งจริงตามที่โอ้อวดไว้เพราะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจล้มเหลว

ในวันที่ข้ามคั่วประชาชนบางส่วนรับได้ เพราะศรัทธาในตัวอดีตนายกฯ แต่วันนี้คงรู้ตัวแล้วว่าคิดผิดเข็ดแล้วไม่เห็นดีอย่างที่คิดไม่เห็นเหมือนในโฆษณาว่าเก่งด้านเศรษฐกิจ บริหารได้ย่ำแย่ อีกทั้งความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่ผิดพลาดจนทำให้คิดถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ความเดือดร้อนตอนนี้มีทุกหย่อมหญ้าตั้งแต่รายได้เกษตรกร คนงาน ค่าครองชีพสูง ทำมาหากินก็ไม่คล่อง โรงงานห้างร้านบริษัททยอยปิดตัว ปัญหาเฉพาะหน้าแก้ไม่ได้ ปัญหาโครงสร้างก็ไม่เคยพูดถึงอย่างจริงจัง

ชนชั้นแรกที่ถูกแจกความสิ้นหวังอย่างเท่าเทียมคือเกษตรกร นายกรัฐมนตรีไม่ทันข้อมูลเพราะโดนรัฐมนตรีหลอกว่าราคาสินค้าเกษตรทุกอย่างยังดี เช่น ราคาปาล์มที่มี 5-6 บาท จริง ๆ รายได้เกษตรกรตกต่ำทุกชนิดทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด รัฐมนตรีมารายงานอะไรก็เชื่อ ไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถให้ทิศทางการแก้ปัญหาได้ สั่งให้ไปแก้ปัญหา แต่ไม่ได้บอกว่าให้ทำอะไร ต้องเตรียมการอะไรล่วงหน้า และยังไม่มีน้ำยาพอที่จะประสานงานให้รัฐมนตรีต่างพรรคทำงานร่วมกันได้ ข้าวของต่าง ๆ ไม่ได้ลดลง และยังมีของที่แพงขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ ยังมีค่าไฟที่เพิ่มขึ้น นายกฯ บอกกับพ่อให้ไปบอกในเวทีต่าง ๆ ว่าจะลดเหลือ 3.70 บ้าง ลดเหลือ 3.50 บ้าง ซึ่งทั้งหมดเป็นราคาคุย และไม่กล้าแตะทุนพลังงาน สิ่งที่ทำไปแล้วก็ทำไม่ได้ ที่เกิดขึ้นแน่ ๆ คือไม่ลด แต่เพิ่มแน่ ๆ จากดีลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ อีกสาเหตุคือรายได้คนไม่เพิ่ม ไม่พอกับค่าครองชีพ การที่มาบอกเกี่ยวกับเรื่อง GDP โต ชาวบ้านเขาไม่รู้เรื่อง และไม่เคยพูดว่าจะเพิ่มรายได้เพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนอย่างไร มัวแต่สนใจแต่ GDP

“กี่ครั้งกี่หนแล้วที่แพทองธารพร่ำเพ้อพูดถึงค่าแรงขั้นต่ำ สัญญาตั้งกี่รอบแล้วว่าภายในปี 67 ได้แน่นอน แต่มันคือสัญญาณลม ๆ แล้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำไม่ได้ พูดคนเดียวไม่พอยังเอาไปเล่าให้พ่อฟัง ทำให้นำไปพูดทุกเวทีหาเสียงว่าค่าแรง 400 บาทได้แน่ ๆ แต่เอาเข้าจริงประกาศออกมาแทบช็อคว่า 400 บาทได้จริง ๆ แต่เหลือแค่ 4 จังหวัดกับ 1 อำเภอ บอกว่าภายในปี 60 ก็ไม่ได้ได้ต้นปี 68 แต่ก็ยังให้ความหวังไม่หยุดบอกว่าปี 68 ได้แน่ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ 400 บาท แล้วจะสัญญาเพื่อ” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่ผู้นำประเทศบอกว่าต้องการสร้างโอกาสให้กับประชาชน ตอนนี้ยังไม่ลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ใช้วิธีการแก้ปัญหารายวันขายผ้าเอาหน้ารอดทำ ต่อจากนี้ไปจะแย่ลงเรื่อย ๆ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจคงต้องทำต่อ ทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต การจ่ายเงิน 2 เฟสที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าล้มเหลว การบริโภคไม่กระเตื้องGDP ไม่กระตุก แต่ก็ยังทำต่อ ลดกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิ์เหลือเพียงแค่ 2.7 ล้านคน กลุ่มคนอายุ 16- 20 ปี เรียกว่าเป็นนโยบายประชานิยม กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น กระตุ้นความนิยมก็ไม่ขึ้นเช่นกัน

ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ทั้งด้านการท่องเที่ยว ด้านการลงทุน เศรษฐกิจก็ยังเหมือนเดิมแม้จะรู้แล้วว่าไม่ได้ผลแต่ยังคงใช้วิธีการเดิม มองไม่เห็นภาพเว่ารัฐบาลมีแผนอย่างไร โครงการค่อย ๆ ผุดมาทีละอัน แต่ในภาพรวมไม่มี มองไม่เห็นทางออกรัฐบาลแก้หนี้ไปแล้วหลายรอบทั้งพักหนี้เกษตรกร แก้หนี้นอกระบบ แต่ปัจจุบันก็ยังแก้ไม่ถึงไหน แต่ประกาศจบโครงการแล้ว

“การบริหารประเทศแบบเด็กเล่นขายของไม่มีผิด รู้ทั้งรู้ว่าราคาข้าวอยู่ในขาลงก็ยังเชียร์ให้เกษตรกรทำนา ปรับเพิ่มตลาดก็ไม่ได้หาลงไว้ให้ล่วงหน้า นี่รัฐบาลหรือแก๊งต้มตุ๋นประชาชน นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่ประสานให้กระทรวงทุกกระทรวงเห็นภาพตรงกันแล้วทำงานประสานกัน แต่เปล่าเลย คณะกรรมการมีรองนายกฯ 2 คน ดำเนินนโยบายสวนทางกันเองแล้วใครจะรับผิดชอบถ้าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธาร ชินวัตร คิดว่าไม่ไหวดูเหมือนใช้คนไม่ถูกงานจริง ๆ แต่ว่าก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีจนถึงทุกวันนี้ยังคงปกป้องกันได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นายกฯ แถลงเองว่า การผูกขาดทุกชนิดทำให้ประชาชนยากจนลง 1 ใน 2 มาตรการจะมีการปลดล็อคทุนผูกขาดโดยเฉพาะเรื่องข้าว ให้ SME สามารถส่งออกข้าวได้เอง ต้องแก้ระเบียบการค้าข้าว ยกเลิกขั้นต่ำของการสต๊อกข้าว จากเดิมต้องมีสต๊อกข้าว 500 ตันหรือ 20 ตู้คอนเทนเนอร์ เปลี่ยนเป็นต้องมีสต๊อกข้าว 100 ตันหรือ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยให้เหตุผลว่าสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อ นายกฯ ยอมข้าราชการเรื่องง่าย ๆ ยังล้มเหลว คงไม่มีวันได้ฟังนายกฯ แถลงผลงานเรื่องทลายทุนผูกขาดที่จะส่งผลกระทบกับค่าครองชีพของประชาชนจริง ๆ

ทั้งนี้ รัฐบาลเมื่อหมดบุญเก่า ก็นำนโยบายเก่ามานำเสนอใหม่ มีความฝันว่าจะไปถึงดวงดาวแต่ไปได้แค่ยอดมะพร้าว เพราะมือไม่ถึง จะมี 1 คนที่ขายฝันคือพ่อนายกฯ ที่จะมาพูดวาดฝันว่าเศรษฐกิจไทยจะพุ่งขึ้นพาไกลไปจนถึงดวงดาว ตอนนี้ก็เป็นการขายฝันกันต่อ

ดิจิทัลวอลเล็ตครั้งแรกจะแจกเป็นเงินดิจิทัล เปลี่ยนรูปแบบวิธีการไปจนจำแบบเดิมไม่ได้ โดยนายทักษิณเล่าว่าที่ผิดแผน เพราะแบงก์ชาติบอกทำไม่ได้ จึงมีไอเดียเพิ่มเติมเรื่อง สเตเบิลคอยน์ และสั่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังให้รับไอเดียนี้ไปศึกษา นายทักษิณมักจะพูดว่าต้องเพิ่มเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจโดยไม่ต้องพิมพ์แบงก์ที่ไหน โดยการออกคอยน์โดยมีพันธบัตรรัฐบาลค้ำประกันเพื่อให้เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจปีนี้ 3.5 แน่ ๆ ปีหน้า 4.7 ต้องถึง 5 ไม่งั้นเราจะด้อยกว่าประเทศอื่น

ทั้งนี้ เราให้เวลาให้โอกาสมามากพอแล้วแต่ทำไม่เคยได้ ยังคงทำนโยบายรายวันขายผ้าเอาหน้ารอดไปวัน ๆ ฝันไกล แต่ก็ไปไม่ถึงดวงดาว หลังชนฝาเมื่อไหร่ก็ไปควักนโยบายเก่า ๆ เมื่อ 20 ปีที่แล้วมาใช้ หมดหนทางก็ลองหาแบงก์ชาติให้ลดดอกเบี้ย อย่าแก้ตัวว่าเศรษฐกิจพังมาก่อนหน้า แบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ย หรือรัฐมนตรีพรรคร่วมเยอะเกินไป จึงทำไม่สำเร็จ

“พายุหมุนทางเศรษฐกิจของแท้กำลังจะมาแล้ว คลื่นลมจะสูงแรงและปั่นป่วนมาก ถ้าเราอยากให้เศรษฐกิจรอดได้ อยากให้ประเทศรอดได้ อยากให้ประชาชนรอดได้ เราไม่สามารถที่จะมีผู้นำประเทศแบบนี้ได้จริง ๆ ไม่สามารถอดทนกันต่อไปได้อีกแล้ว ไม่สามารถอยู่ในสภาวะสิ้นหวังแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ยอมเอาอนาคตลูกหลานไปเสี่ยงได้อีกแล้ว และไม่สามารถไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat