POLITICS

รมว.กต. เผย เวียดนามขอบคุณไทยทลายรังคอลเซ็นเตอร์

รมว.กต. เผย เวียดนามขอบคุณไทยทลายรังคอลเซ็นเตอร์ หารือนายกฯ เวียดนาม ร่วมพัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน สนับสนุนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานการเดินทาง

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ ได้มีโอกาสเข้าพบ และคาราวะ ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และ บุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลเวียดนาม ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ริเริ่มปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน โดยดึงประเทศเมียนมาร่วมแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน จนสามารถช่วยเหยื่อได้ด้วย

ส่วนการประชุมคณะกรรมการไตรภาคี จะมีการพูดคุยกับทั้งไทย จีน และเมียนมาในเบื้องต้นก่อนว่าจะมีความร่วมมือต่อเนื่องกันอย่างไร โดยจะเรียกประชุมทั้งมหาดไทย ความมั่นคง ศุลกากร ฯลฯ เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาต่อเนื่อง และทำความเข้าใจกับมาตรการต่าง ๆ และขั้นตอนการปฏิบัติก่อน เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะมีการประชุม 3 ฝ่าย และมอบหน่วยงานปฏิบัติดำเนินการต่อไป

นายมาริษ ย้ำถึงมาตรการการตัดไฟ พลังงาน และสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไทยเมียนมาภายหลังมีมวลชนกลุ่มหนึ่งออกมาแสดงความไม่พอใจบริเวณชายแดนว่า รัฐบาลเมียนมาไม่ได้มีปัญหาใด ๆ และสนับสนุนการดำเนินการของไทยในการแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวของไทย

ทั้งนี้ นายมาริษ หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม โดยทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องไปสู่เป้ามูลค่าการค้าร่วมกัน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ พร้อมขอให้เวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกแก่บริษัทไทยในเวียดนาม และการนำเข้าสินค้าไทย รวมถึงเวียดนามเองก็พร้อมร่วมพัฒนาความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสีเขียว ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อผลประโยชน์สองประเทศ

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานการเดินทาง-เส้นทางการคมนาร่วมกัน และข้อริเริ่ม “6 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง” ซึ่งนายกรัฐมนตรีเวียดนาม พร้อมตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาเริ่มดำเนินการ และปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ ทันที เพื่อปูทางสำหรับการเดินทางเยือนเวียดนามของนางสางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในปีนี้

นายมาริษ ยังหารือทวิภาคีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนาม เพื่อร่วมกันผลักดันความร่วมมือการค้า การลงทุน โดยเห็นว่าในยุคนี้ไม่ใช่ยุคการแข่งขัน แต่เป็นยุคความร่วมมือให้รอดพ้นจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีการแข่งขันสูง และทั้ง 2 ประเทศ มีจุดแข็งต่างกัน จึงควรร่วมมือกันทางเศรษฐกิจเพื่อตอบโจทย์ต่อความต้องการของตลาดโลก และยังพร้อมร่วมมือกับไทยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และบริหาร-จัดการปัญหาลุ่มน้ำโขงร่วมกัน

นอกจากนี้ ยังหารือร่วมกับหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม และภาคเอกชนไทยที่มาลงทุนในเวียดนาม เพื่อเดินหน้านโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก และรับฟังอุปสรรคของภาคเอกชนไทยในต่างประเทศในการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดอุปสรรค และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุนของไทยในภาพรวม

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat