‘สมเจตน์’ ซัด ส.ส.แก้ พ.ร.ป. พรรคการเมือง ทำลายคุณค่าประชาธิปไตย
‘สมเจตน์’ ซัด ส.ส.แก้ พ.ร.ป. พรรคการเมือง ทำลายคุณค่าประชาธิปไตย-ประชาชนมีส่วนร่วม ด้าน ‘เสรี’ ย้อนวันวาน ย้ำไม่มีอคติ
วันนี้ (25 ก.พ. 65) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. อภิปรายต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่…) พ.ศ… ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยประกาศไม่รับหลักการร่างพ.ร.ป.ดังกล่าว ที่เสนอโดยส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวม 5 ฉบับ เนื่องจากมีเนื้อหาที่เกินเลยไม่สอดคล้องกับรัฐธรมนูญ แก้ปัญหาการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของพรรคการเมืองเพื่อให้การกระทำนั้นชอบ ขัดขวางการมีส่วนร่วมของสมาชิกที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ขัดขวางการพัฒนาพรรคการเมือง ให้เป็นของประชาชน เป็นสถาบันทางการเมือง ทั้งนี้จะรับหลักการเพียงร่างพ.ร.ป.ของคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพราะมีหลักการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) พ.ศ.2564
โดยพรรคการเมืองกล่าวอ้างว่าการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยการเลือกตั้งขั้นต้น ให้สมาชิกพรรคร่วมคัดเลือก นั้นทำไม่ได้จริง เสียค่าใช้จ่าย ผมมองว่าคือการทำลายคุณค่า และทำความสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ดีผมฐานะผู้ร่วมยกร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ต้องการสร้างพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชน มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ประชาชนมีส่วนร่วมแท้จริง โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้สมัคร จึงออกแบบให้มีรายได้ของตนเอง เพื่อพ้นจากการครอบงำของนายทุน มีทุนประเดิมจากผู้ริเริ่ม รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขไม่ให้คนนอกพรรคถูกครอบงำ ผมยืนยันว่าเจตนาของการทำกฎหมายลูกไม่ใช่มุ่งเพื่อทำลายพรรคการเมือง อย่างไรก็ดีกรณีที่ส.ส.เสนอแก้ไขกฎหมาย อาจทำให้ย้อนไปสู่วิกฤตการเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะแก้ไขเกินเลยกว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 83 ที่มีคำถามว่าจะทำได้หรือไม่
พล.อ.สมเจตน์ อภิปรายโดยฝากข้อคิดไปยัง ส.ส. ด้วยว่า พรรคการเมืองเป็นองค์กรสำคัญในระบอบประชาธิปไตย รับมอบอำนาจจากประชาชนไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และบริหารราชการแผ่นดิน แก้ไขปัญหาสังคมที่ซับซ้อน เพื่อประโยชน์สุขประเทศ ประชาชน จึงน่าคิดว่าการปฏิบัติของพรรคการเมือง ต้องการการปฏิบัติแบบง่ายๆ ทั้งจัดตั้งพรรค จัดตั้งสาขา คัดเลือกผู้สมัครง่ายๆ ดังนั้นพรรคการเมืองจะเข้าไปรับผิดชอบแก้ไขปัญหาชาติที่ซับซ้อนได้อย่างไร นอกจากนั้นการปฏิรูปพรรคการเมืองไม่สำเร็จหากผู้มีอำนาจในพรรค ลดอำนาจตนเองให้กับสมาชิกพรรรค หรือปฏิรูปตนเอง
ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายด้วยว่าในการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองที่ตนมีส่วนร่วมฐานะสมาชิกสภาขับเคลื่อนสภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) พบปัญหาการเมืองว่าด้วยพรรคการเมืองถูกนายทุนครอบงำ และในการทำงานของ สปท. มีนักการเมืองหลายคนร่วมคิดถึงการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการซื้อตัวประชาชนให้เป็นสมาชิกพรรค, นายทุนออกค่าบำรุงพรรคแทนประชาชน และที่ผ่านมามีข้อพิจารณาว่า หากมีการลงทุน 2 หมื่นล้านสามารถซื้อประเทศได้ โดยให้ ส.ส.400 คน ลงทุนคนละ 50 ล้านแต่ละเขต มีโอกาสเป็นส.ส.ใช้อำนาจบริหารประเทศ จึงมีข้อเสนอให้ใช้วิธีแก้ไขโดยการเลือกตั้งขั้นต้น หรือไพรมารี่โหวต เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ดังนั้นจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาไม่ใช่ทำให้พรรคการเมืองทำงานลำบาก
“5 ปีที่กฎหมายใช้ แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะพวกเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง หากมีความตั้งใจสามารถทำได้ แต่ปัจจุบันไม่ให้ความสำคัญ เช่นการตั้งสาขาพรรค จึงบอกว่ายุ่งยาก แต่ความจริงไม่ยุ่งยาก หากต้องการให้ประชาชนเลือกตัวแทนในเขตหรือพื้นที่ เป็นผู้สมัคร ส.ส. สามารถแก้ปัญหาลงทุน หรือ ธุรกิจการเมือง อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนอยากซื้อเสียง แต่คนดีไม่มีคะแนน จึงเกิดคืนหมาหอน” นายเสรี กล่าว
นายเสรี อภิปรายยืนยันว่าการเขียน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้มีอคติ หากไม่ยอมเปลี่ยนแปลง และต้องการย้อนกลับไปสู่ปัญหาเก่า ตนจะรับแค่บางร่างเท่านั้น