POLITICS

ปธน.เยอรมนี ชี้ กรณี ‘พิธา’ เป็นสัญญาณที่ดีว่าประเทศไทยมีพื้นฐานของประชาธิปไตยว่าด้วยเสรีภาพการแสดงออก

วันนี้ (25 ม.ค. 67) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พร้อมด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังหารือข้อราชการ ณ ตึกไทยคู่ฟ้า และหารือกับภาคเอกชน ณ ตึกภักดีบดินทร์ ในโอกาสประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit)

ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี แถลงเป็นภาษาเยอรมัน ถึงการหารือกับนายกรัฐมนตรี ในประเด็นสิทธิมนุษยชนและภาคประชาสังคม ซึ่งยินดีที่ได้พูดคุยกับนายกฯ กันอย่างเปิดเผย

จากนั้น มีสื่อมวลชนต่างประเทศ ถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลที่แล้ว เข้าสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับเยอรมนีอย่างไร นายเศรษฐา ตอบว่า จากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเป็นเวลา 4 เดือนได้เดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างมาก โดยไปที่เมืองดาวอซ สหพันธรัฐสวิส พบกับนักธุรกิจชั้นนำทั่วโลก รวมถึงนายกรัฐมนตรีเบลเยียม ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ และประธานสหภาพยุโรป ซึ่งไทยประกาศชัดเจนว่าประเทศเราเปิดสำหรับภาคธุรกิจแล้ว โดยในเดือนมีนาคมนี้จะเดินทางไปเยือนทวิภาคีกับรัฐบาลเยอรมนีอีกครั้ง

ด้าน ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เห็นพัฒนาการเชิงบวกในการร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ โดย ได้กล่าวว่า การตั้งรัฐบาล อาจไม่สามารถตั้งความหวังให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยสำคัญคือเสรีภาพการแสดงออก ซึ่งจากคำวินิจฉัยต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซี่งเป็นฝ่ายค้านนั้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า ประเทศไทยมีพื้นฐานของประชาธิปไตยว่าด้วยเสรีภาพการแสดงออก

นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวตอบรับทิ้งท้ายว่า ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน ตลอด 4 เดือนที่รัฐบาลนี้บริหารประเทศ เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วเรื่องความสงบ และการให้เสรีภาพที่เหมาะสม ภายใต้กรอบกฎหมาย เราสนับสนุนทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง

Related Posts

Send this to a friend