ส.ส. ภูมิใจไทย ซัดฝ่ายค้านใส่ร้าย ‘ศักดิ์สยาม’ ขู่ฟ้องกลับขั้นยุบพรรค

วันนี้ (25 ม.ค. 66) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าว ณ อาคารรัฐสภา ภายหลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีและสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144
ประเด็นที่หนึ่ง ข้อกล่าวหาที่ว่า นายศักดิ์สยาม มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น กับบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด นั้น นายศุภชัย กล่าวตอบโต้ว่า เรื่องนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งยังยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นเรื่องเดิม ซึ่งนายศักดิ์สยามได้ชี้แจงให้ทราบมาโดยตลอด พร้อมแสดงหลักฐานเอกสารกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่ามีการโอนหุ้นตามกฎหมายก่อนการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เท่ากับพ้นจากการเป็นผู้ถือหุ้นหรือมีสิทธิในห้างหุ้นส่วนจำกัดมาแต่ในเวลานั้นแล้ว เป็นหลักฐานที่ควรต้องรับฟัง
ประการที่สอง นายศักดิ์สยาม มีส่วนได้เสียกับการใช้จ่ายงบประมาณ นายศุภชัย ชี้แจงว่า นายศักดิ์สยามมีบทบาททั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ทำหน้าที่กรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ทำได้เพียงการแปรญัตติลดงบประมาณรายจ่าย ดังนั้น การเสนอรายละเอียดของส่วนราชการก็เป็นไปตามแนวนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา ทั้งยังมีกรอบพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างที่ควบคุมฝ่ายบริหารอยู่ การทำหน้าที่ของนายศักดิ์สยามจึงเป็นการทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่มีการกระทำการมีส่วนได้เสียจากงบประมาณตามที่ท่านกล่าวหา
“ไม่มีอะไรมากกว่าที่ท่านหวังผลทางการเมือง ทำลาย หรือดิสเครดิต นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งเป็นเลขาธิการภูมิใจไทย วันนี้อยู่ในช่วง 180 วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ การกระทำนี้เรามองว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเรื่องความสุจริต เป็นการคิดโดยอัตวิสัย มีวาระซ่อนเร้น เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม ใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และมีผลต่อคะแนนนิยมพรรคภูมิใจไทย อาจเป็นการกระทำความผิดมาตรา 73 ของ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. อาจมีความจำเป็นที่จะยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีในทางนั้น หรือถ้าผู้นำพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคมีการดำเนินการเช่นนี้ อาจจะต้องพิจารณาดำเนินการเรื่องยุบพรรคต่อไป” นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวยืนยัน