‘สนธิ’ นำมวลชนบุกทำเนียบ ทวงคำตอบ MOU44
‘สนธิ’ นำมวลชนบุกทำเนียบ ทวงคำตอบ MOU44 จากนี้ จะเดินหน้าต่อด้วยมูลนิธิฯ ตรวจสอบทุกเรื่องเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง
วันนี้ (24 ธ.ค. 67) นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อมมวลชน ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้า กรณีขอให้รัฐบาลยกเลิก MOU 44 และ JC 44 เนื่องจากขัดหรือแย้งต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติกฎหมาย สุ่มเสี่ยงต่อการเสียเอกราชธิปไตย โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกเป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายสนธิกล่าวว่า การมาวันนี้เพราะไม่ยอมรับคำตอบของรัฐบาลที่ตอบมาแบบง่ายๆ จากนี้จะรอให้ได้คำตอบ การเดินทางของกลุ่มมวลชนจะมีต่อไปจะเรียกร้องทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชาติบ้านเมือง ด้วยมูลนิธิยามเฝ้าชาติบ้านเมือง และมีแพทย์หญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีต สว. และนายคมสัน โพธิ์คง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายปกครอง ขับเคลื่อน การก่อตั้งมูลนิธิยามเฝ้าชาติบ้านเมือง จะเรียกร้องไม่ใช่เพียง MOU44 เท่านั้น เพราะมีหลายประเด็น เช่น ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปัญหาเขากระโดง และปัญหาต่างด้าว โดยมีพรรคประชาชนชักศึกเข้าบ้าน
ด้าน นายปานเทพ กล่าวว่า วันนี้เราได้ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าหลังครบกำหนด 15 วัน ในการยื่นหนังสือให้เพิกถอน MOU 2544 และ JC 2544 ถ้าถามว่าทำไมต้องมายื่น เพราะรัฐบาลตอบไม่ตรงคำถามที่ถามไป เราถามไป 6 ข้อ ให้รักษาอธิปไตยของชาติ , ให้นายกนำเรื่องเข้า ครม. , เราขอให้เพิกถอน MOU2544 , ขอให้ยุติการตั้งคณะกรรมการ JTC , เราขอให้เปิดเวทีสาธารณะ แต่รัฐบาลตอบว่าได้ยื่นหนังสือไปที่กระทรวงต่างประเทศแล้ว โดยไม่มีคำตอบที่เกี่ยวกับ 6 ข้อที่ถาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายแล้วได้คำตอบกลับอย่างไรเกี่ยวการเรียกร้องครั้งนี้ นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนที่ตนเองได้รับหนังสือตอบกลับมานั้น คำตอบไม่ตรงคำถาม ให้รัฐบาลตอบกลับมาให้ตรงคำถาม หากกระทำความผิด ตนเองจะไปดำเนินคดีความต่อเอง วันนี้ได้รับคำตอบแค่ว่าเขารับรู้ว่าเราไม่เห็นด้วย ซึ่งนายกฯ เคยบอกว่าพร้อมจะพูดคุยกับนายสนธิ แต่เมื่อถึงเวลาบอกว่าเวทีสาธารณะไม่ต้องเพราะมีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีเส้นตายหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่มีเส้นตายเมื่อยื่นไปแล้วภายในสิ้นปี 67 ไม่มีคำตอบเป็นอย่างอื่น ก็แปลว่านายกฯ ไม่ตอบ ขนาดวันนี้ไม่ได้เกณฑ์คนมายังมีประชาชนมาอย่างล้นหลามคิดดูถ้าไม่ตอบคำถาม และไม่ปฏิบัติไปเรื่อย ๆ แสดงว่าอยากเห็นเราลงถนนใช่หรือไม่ ส่วนสถานการณ์จะพัฒนาไปเอง ในปี 68 เรามีการนัดกัน 2 ที่ คือ 1.รัฐสภา 2.กระทรวงการต่างประเทศ หากยังไม่คืบหน้าอาจไปที่กองทัพเรือ และทุกวันนี้เรื่องคุกรุ่นอยู่ในใจประชาชนอยู่แล้ว