‘ปานปรีย์’ เชื่อนโยบายปราบอาชญากรรมข้ามชาติจะชัดขึ้น หลังเรื่อง ‘เล้าก์ก่าย’ จบ
‘ปานปรีย์’ ปัดตอบหน่วยใดเป็นเจ้าภาพ NRM เชื่อนโยบายปราบอาชญากรรมข้ามชาติจะชัดขึ้น หลังเรื่อง ‘เล้าก์ก่าย’ จบ ชี้ปัญหาค้ามนุษย์ไม่เกี่ยว กต. โดยตรง แต่เป็นงานหน่วยความมั่นคง ยืนยันกระทรวงฯ มีหน้าที่พาคนไทยกลับบ้านปลอดภัย คาดเหลือในเล้าก์ก่ายมากกว่า 40 คนจากที่มีรายงาน
วันนี้ (24 พ.ย. 66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับแนวนโยบายของรัฐบาล ต่อการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ภายหลังช่วยเหลือคนไทยผู้เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จากเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
นายปานปรีย์ กล่าวว่า ประชาชนไม่ว่าจะเดินทางเข้าไปในพื้นที่อย่างไร หากได้รับผลกระทบและอันตราย รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่ดูแลให้ได้รับความปลอดภัย และกลับบ้านโดยเร็วที่สุด
ปัจจุบันมีคนไทย 306 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะมีคนไทยกลับมาเพิ่มอีก 24 คน และมีบางส่วนคงค้างอยู่ในเมืองเล้าก์ก่าย ถือว่าจำนวนนี้มากพอสมควร แต่จำนวนคนไทยที่ยังอยู่ในเมืองเล้าก์ก่ายขณะนี้ยังไม่ชัดเจน ตามที่ได้รับรายงานคือ 40 คน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะมีมากกว่านั้น
ส่วนนโยบายของรัฐบาล นายปานปรีย์ ตอบว่า ส่วนตัวเข้าใจว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่มีความชัดเจนในเชิงนโยบายว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร อาจไม่เรียกว่าเป็นการปล่อยปละละเลย แต่ปล่อยให้คนข้ามแดนไปโดยไม่ได้รับการตรวจสอบ
ทั้งนี้ ปัญหาการค้ามนุษย์ นายปานปรีย์ มองว่า อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องดำเนินการ
ในฐานะร่วมรัฐบาลอยู่ นายปานปรีย์ เชื่อว่า หากเรื่องเล้าก์ก่ายเรียบร้อย น่าจะมีความชัดเจนในเชิงนโยบายมากขึ้น อย่างเรื่องการเดินทางข้ามแดน เช่น การท่องเที่ยว และการทำงาน ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ในกรณีค้ามนุษย์ การก่ออาชญากรรม หรือการทำธุรกิจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คงต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบ เป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) แต่อย่างใด