กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ขอให้เร่งถอดบทเรียน ป้องกันซ้ำรอย ตากใบ หาแนวทางเยียวยาเพิ่มเติม
วันนี้ (24 ต.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงข่าวหลังจาก เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเพื่อพิจารณาศึกษา และวิเคราะห์กรณีคดีตากใบกับการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ และการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับว่า เหตุการณ์ตากใบเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ตนเองจึงต้องการใช้กระบวนการยุติธรรมในการเปิดเผยความจริง และยังมีข้าราชการ 2 รายที่ต้องการให้นำตัวกลับมาต่อสู้คดีในชั้นศาล
คณะกรรมาธิการยังได้แสดงความกังวลที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน ไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่เป็นโจทก์ในคดีนี้หลายคน ในสุไหงปาดี และเจาะไอร้อง ทำให้ประชาชนรู้สึกถูกคุกคาม จึงขอให้รับรองความปลอดภัยของประชาชน และยุติภารกิจดังกล่าว
คณะกรรมาธิการยังได้สอบถามถึงการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำรอยในการควบคุมฝูงชน โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ชี้แจงว่า การควบคุมฝูงชนเป็นหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่ แต่กรรมาธิการมีความเห็นว่า ที่ผ่านมาการควบคุมฝูงชนมีปัญหาเรื่องใครเป็นผู้ปฏิบัติการหลัก จึงขอให้พิจารณาในเรื่องเหล่านี้
นายจาตุรนต์ ระบุว่า นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงว่า สำหรับเหตุการณ์ตากใบ รัฐบาลในอดีตได้เยียวยา และขอโทษ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดตามตัวผู้ต้องหาอย่างเต็มที่ และได้มีข้อสั่งการของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้เฝ้าระวังและเตรียมยกระดับป้องกันการชุมนุมภายใต้หลักการชุมนุมอย่างสงบ และให้ระวังการแทรกแซงจากมือที่ 3 และยังคาดการณ์ว่าจะมีการก่อเหตุรุนแรงมากขึ้นหลังหมดอายุความ ซึ่งภาครัฐได้เพิ่มการดูแลพื้นที่ พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย อย่างเคร่งครัด และเยียวยาจิตใจของผู้เสียหาย ดูว่าทำอะไรเพิ่มเติมได้อีก รวมถึงเดินหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ สมช. เตรียมการทำข้อเสนอต่อรัฐบาล ให้มีการแต่งตั้งคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ใหม่ ภาครัฐยินดีเปิดพื้นที่ให้พูดคุยแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ขณะที่ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุขฯ ทางฝ่ายมาเลเซีย ก็มีความจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ภาครัฐยังพิจารณาเรื่องลดการใช้กฎหมายพิเศษ ใช้กฎหมายอื่นแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แยกแยะลักษณะของผู้เห็นต่าง พิจารณาเรื่องส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาพื้นที่ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการลดความขัดแย้ง และเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะประธานกรรมาธิการได้ฝากความเห็นว่า ควรเร่งสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์ตากใบ ตั้งแต่การควบคุมผู้ชุมนุม การบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดีให้เกิดความยุติธรรมที่เคยล้มเหลวไป เพราะการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมจำนวนมากเป็นบาดแผลของสังคมไปรอบหนึ่งแล้ว และเมื่อพบว่าไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เลยเมื่อหมดอายุความแล้ว ก็จะเป็นบาดแผลที่สำคัญมากขี้น จึงควรหาแนวทางเยียวยาเพิ่มเติม และหาวิธีการควบคุมบังคับใช้กฎหมาย ให้กระบวนการยุติธรรมสามารถคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนได้จริง
นายจาตุรนต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กรรมาธิการจะเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาหารืออีกในเร็ว ๆ นี้ เพื่อสอบถาม และแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ นโยบาย ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ได้ข้อมูลล่าสุดที่ตรงกับความเป็นจริงประกอบการทำรายงานของกรรมาธิการ