POLITICS

‘ชัชชาติ’ เชื่อภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน คนต้องการสร้างสังคมที่ดีกว่าเพื่อคนรุ่นใหม่

‘ชัชชาติ’ ลั่น “ผมมีวันนี้ได้เพราะระบอบประชาธิปไตย” เชื่อภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยน คนต้องการนโยบายที่ละเอียดครอบคลุม สร้างสังคมที่ดีกว่าเพื่อคนรุ่นใหม่

วันนี้ (24 มิ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกล่าวปัจฉิมกถาในวาระครบรอบ 90 ปี ประชาธิปไตยไทย เนื่องในวันครบรอบการเปลี่ยนแปลงการปกครอง อภิวัฒน์สยาม ครบ 90 ปี 24 มิถุนายน 2475

ชัชชาติ ยกความสำเร็จของประชาธิปไตย ครั้งล่าสุดคือความสำเร็จจากการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ด้วยคะแนนเสียงของประชาชนกว่า 1.38 ล้านเสียง และแสดงวิสัยทัศน์ในการทำงานการเมืองเพื่อพัฒนาเมืองของตน ว่าเริ่มจากต้องพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ให้มากกว่าหรือเท่ากับคนที่เข้าใจอยู่แล้ว เพราะการเป็นข้าราชการการเมืองไม่ใช่เพียงชนะเลือกตั้ง แต่ต้องทำงานร่วมกับข้าราชการที่เขาเชี่ยวชาญและทำงานเรื่องต่างๆมาก่อนให้ได้ ต้องเข้าใจทางเทคนิคในเรื่องนั้นๆ ว่าเรามีความสามารถพอหรือเปล่า ต้องประเมินว่าวิธีการทำงานการเมืองเข้ากับวิถีของโลกไหม ทำการเมืองจะสนุกไหม ทำการเมืองแห่งความหวัง และเชื่อว่าประชาธิปไตยในอนาคตไม่น่ากลัว เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ทำได้

นอกจากนี้ ชัชชาติ ยังระบุว่าการเลือกผู้ว่าที่ผ่านมาสามารถเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองใหญ่ได้ ทำให้นักการเมืองที่ทำงานแบบเดิมต้องกลับมาคิดใหม่ ทำใหม่ ทำงานการเมืองแบบมีความหวัง และลงมือทำงานจริง เปลี่ยนนักการเมืองอาชีพเป็นนักคิด มีความหวัง สร้างความหวัง

“…เมื่อ 3 ปีที่แล้วเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่นะ (เสียงปรบมือดัง) ไม่รู้จะไปยื่นใบลาออกกับใคร ตอนนี้เป็น 2 ตำแหน่งคือเป็นผู้ว่า กทม.ด้วย เป็นแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยด้วย แต่ตำแหน่งหลังไม่มีเงินเดือน ออกจากสมาชิกพรรคมา 3 ปี ก็ตัดสินใจว่าเป็นอิสระอย่างแน่นอน จึงมาทำงานเป็นผู้ว่ากทม. …” ชัชชาติ กล่าว

ชัชชาติ ย้ำว่า ตนเชื่อว่าตัวเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่การเป็นอิสระสามารถดึงคนเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือได้ ออกแบบการสื่อสารการเมือง สื่อสารนโยบายโดยคนรุ่นใหม่ ออกแบบนโยบายที่มีความละเอียดครอบคลุมกลุ่มคนได้มาก เพราะเชื่อว่าการเมืองในอนาคตจะเจาะคนกลุ่มเล็กมากขึ้น โดยมีวิธีคิดคือการทำงานกับคนรุ่นใหม่ รับความเห็นใหม่ เป็นประชาธิปไตยที่สนุก ไม่สาดสี ไม่เคยด่าใคร แคมเปญคือสร้างสรรค์ ถ้ามีใครด่า หากเป็นความจริงจะปรับปรุง ถ้าไม่จริงจะมูฟออน

“…ผมมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะประชาธิปไตย ผมไม่มีทางอยู่ตรงนี้ได้ถ้าไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ถึงเรามาคนเดียวแต่เรามาพร้อมความรู้ ทีมงาน และวิธีการแก้ปัญหา อันนี้แหละคือความหวังที่คนรุ่นใหม่ต้องการ เพราะฉะนั้นการเมืองไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ประชาธิปไตยในอนาคตหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของความรู้ความสามารถ เทคโนโลยี ขอให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกันเยอะๆ พวกเราเปลี่ยนเมืองได้ ผมทำกรุงเทพวันนี้ไม่ได้เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคนรุ่นใหม่เพราะเขาคือคนที่ต้องใช้ประโยชน์จากเมืองนี้อีกนานที่สุด และคุณต้องไม่ใช่แค่คนรับวิธีการ แต่ต้องเป็นคนออกแบบวิธีการด้วย … ผมหวังว่าการเข้ามาทำงานผู้ว่าของผม จะจุดประกายความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงานการเมือง…” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว

เรื่อง : ทศ ลิ้มสดใส
ภาพ : ศุภสัณห์ กันณรงค์

Related Posts

Send this to a friend