‘อนุทิน‘ แจงปมที่ดินอัลไพน์ – เขากระโดง ยัน ไม่เอื้อประโยชน์กัน
‘อนุทิน‘ เชียร์ “สู้สู้ แพทองธาร” หลัง แจงปมที่ดินอัลไพน์ – เขากระโดง แทนนายกฯ ยัน ไม่เอื้อประโยชน์กัน เพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้ว ถือว่านายกฯ – ครอบครัวคือผู้เสียหาย ไม่อาจก้าวล่วงคำสั่งศาล มอง เป็นความผิดพลาดของกรมที่ดินในอดีต
วันนี้ (24 มี.ค. 68) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงแทน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงกรณีที่ดินอัลไพน์ และที่ดินเขากระโดง ว่า ในการอภิปรายของท่านได้ผูกโยงระหว่างสองเรื่องนี้แล้ว ว่ามีการเอื้อประโยชน์ระหว่างครอบครัวของนายกรัฐมนตรี และตนเองในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขอชี้แจงว่ารัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่กิจการของใครคนใดคนหนึ่ง หรือครอบครัวของใคร ดังนั้น จะมาปันผลประโยชน์ใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น ขอยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ไม่เคยเข้ามาแทรกแซง หรือสั่งการใด ๆ ทั้งทางตรง และทางอ้อมในกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย หรือตนเอง ให้ทำการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทอัลไพน์ และบุคคลในครอบครัวของท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟอัลไพน์นั้น ปัญหานี้ยืดเยื้อมากกว่า 20 ปีแล้ว ผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว และมีคำสั่งคำพิพากษาของศาล ที่บุคคลหลายท่านต้องโทษในคำพิพากษาของศาลไปแล้ว แต่ทั้งหมดคือเรื่องของการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ได้มายุติในรัฐบาลชุดนี้ ด้วยนโยบายที่ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ยึดความถูกต้องเป็นหลักในการดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งในขณะที่ทำนั้น ตนเองได้ถามอธิบดีกรมที่ดินว่า มีความรู้สึกกดดันใด ๆ หรือไม่ในการมีเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งเขากระโดง และอัลไพน์ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดิน ได้ยืนยันกับตนเองชัดเจนว่า ไม่ได้มีความกดดันใด ๆ ทั้งสิ้น และยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎหมายตามหน้าที่ทุกประการ
“แทนที่จะกล่าวหาว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง และคนในครอบครัว จริง ๆ จะต้องชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้นโยบายต่อกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดินผ่านทางผมว่า ให้ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก และไม่ต้องคำนึงถึงกระทบใด ๆ ที่จะไปถึงตัวท่านเอง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มีการเพิกถอนที่ดิน เอกสารสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ จากการลงนามโดยรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่มีอำนาจโดยตรงในการดำเนินการ ดังนั้น ต้องถือว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรี และครอบครัว คือหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกับผู้ที่เป็นลูกบ้านอัลไพน์ ซึ่งจะต้องไปใช้สิทธิ์กับทางศาล เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง และขอรับค่าทดแทน จากการกระทำนิติกรรมที่เป็นการบกพร่องของกรมที่ดินในอดีต
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เช่นเดียวกับกรณีปัญหาที่ดินเขากระโดง คือกรมที่ดินปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง ให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และคณะกรรมการได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ที่จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินตามที่การรถไฟได้ฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังคงสิทธิ์ไว้ที่จะไปฟ้องศาลต่อ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งในการเพิกถอนหรือไม่อย่างไร แต่ขณะนี้ตามคำสั่ง และคำพิพากษาของศาลปกครอง ที่ระบุไว้ว่าการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 นั้นเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วได้ผลอย่างไรศาลไม่อาจก้าวล่วงได้
“แม้กระทั่งในคำพิพากษาของศาล ยังเขียนไว้ว่าศาลก้าวล่วงไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับที่ท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะไปสั่งการ ก้าวล่วงให้เป็นการดำเนินการอย่างอื่นแก่ข้าราชการของหน่วยงานต่าง ๆ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวสรุปว่า กรณีของที่ดินเขากระโดง อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองแล้ว กรณีการเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และที่ดินเขากระโดง ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ไม่มีการตกลงแลกประโยชน์ใด ๆ แม้แต่เล็กน้อย และทั้งสองกรณี เป็นกรณีที่กรมที่ดินต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล ทั้งสองกรณีเกิดขึ้นมาก่อนที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้ามาดำรงตำแหน่ง ดังนั้น ก็อยากเรียนให้ทราบว่าข้อกล่าวหาจากสมาชิกที่อภิปรายไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ไม่มีข้อเท็จจริง หรือไม่มีมูลแต่ประการใด
“ดังนั้น ในขณะที่เป็นหัวหน้าพรรครัฐบาลพรรคหนึ่ง จึงขออนุญาตชี้แจง และขอจบด้วยคำว่าสู้สู้ แพทองธารครับ”