‘ณัฐวุฒิ’ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีแก้ ม.112 มั่นใจไม่กระทบหน้าที่ สส.
วันนี้ (24 ก.พ.68) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อรับฟังข้อกล่าวหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณี 44 สส.พรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่าการกระทำของ สส.ทั้ง 43 คน เป็นเอกสิทธิของ สส. และเป็นการทำหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เราเห็นว่าอาจกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน สำหรับข้อกล่าวหาของตนเองเกี่ยวเนื่องกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพ และความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทถูกระบุอยู่ในข้อกล่าวหาเป็นหลัก และอีกส่วนหนึ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ป.ป.ช.กล่าวว่าหาว่า ตนเองเคยมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งต้องดูในรายละเอียดว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อไร และมีพยานหลักฐานใดที่ ป.ป.ช.ใช้กล่าวอ้าง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
ตนเองไม่สามารถบอกว่าเบาใจ แต่ขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การแก้ไขกฎหมายไม่ควรจะเป็นความผิดจริยธรรมร้ายแรง แม้ว่าท้ายที่สุดไม่รู้ว่า ป.ป.ช.จะชี้มูล และส่งไปยังศาลที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่หากมีกระบวนการแบบนี้จะนำไปสู่การตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เปรียบเสมือนการประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งวันนี้ตนเองได้บันทึกถ้อยคำ และยืนยันกับ ป.ป.ช.ว่า ตนเองจะขอคัดถ่ายเอกสารทุกอย่าง
อย่างไรก็ตามวันนี้ยังไม่รู้ว่าใครคือ บุคคลที่กล่าวหาตนเอง รวมถึงมีพยานกี่คน ให้การว่าอย่างไรบ้าง และข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดที่ ป.ป.ช.ใช้ในวินิจฉัยว่า การกระทำของพวกตนเอง เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งตนเองได้ยื่นเรื่องไว้แล้ว นอกจากนี้การคุ้มครองพยานก็ต่อเมื่อมีความเสี่ยง ที่พยานอาจจะถูกพวกตนเองเข้าไปข่มขู่คุกคาม แต่ประชาชนทราบดีว่าคงไม่มีการกระทำเช่นนั้น และสิ่งนั้นเกิดขึ้นแล้วจากการให้ข้อมูลของพยาน ดังนั้นควรเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของผู้ถูกกล่าวหา ที่จะรับรู้ว่า ผู้กล่าวหาคือใคร และกล่าวหาด้วยอะไร มีพยานหลักฐานอะไรบ้าง มีข้อมูลวิดีทัศน์ การบันทึกเทป คลิปเสียง คลิปวิดีโอ และเอกสารใด ๆ ซึ่งตนเองยื่นขอไปแล้ว คาดว่าใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2-3 วัน
โดยในระเบียบของ ป.ป.ช.ระบุไว้ว่า การให้พยานหลักฐานต่าง ๆ ต้องไม่กระทบต่อรูปคดี และเป็นการคุ้มครองข้อมูลสิทธิบุคคล แต่ตนเองมองว่าด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง อาจนำไปสู่การตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต พวกตนเองไม่มีสิทธิที่จะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
นายณัฐวุฒิ ย้ำว่าการเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ของ สส. ซึ่งจะมีการสรุปข้อมูลญัตติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพราะถือเป็นภารกิจที่เราต้องทำ เช่นเดียวกับภารกิจอื่นที่ต้องทำในสภาฯ ซึ่งอยากให้ประชาชนมั่นใจว่า การต่อสู้ของพวกเราจะไม่มีหงอ และจะใช้สิทธิทุกประการ เพื่อให้สิ่งเหล่านี้หายไปจากการดำเนินการ ตนเองเชื่อว่า ป.ป.ช. ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นการเมืองที่จะมาทำร้ายพวกเรา ดังนั้นจึงต้องเปิดโอกาสให้พวกเราต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพื่อเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตย
ขณะที่การทยอยเดินเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของอดีต สส.พรรคก้าวไกลนั้น ทั้ง 43 คนได้พูดคุยเป็นการทั่วไป และปรึกษาหารือกันบ้าง ตามระเบียบ ป.ป.ช.การส่งหมายเรียก ต้องคำนึงถึงระยะทางใกล้-ไกล แต่ปรากฏว่าคนอยู่บ้านไกลกลับได้หมายเรียกก่อน แต่คนที่มีพื้นที่อยู่กรุงเทพมหานครบางคนยังไม่ได้หมายเรียก ดังนั้นตนเองไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้ว่า คนต่อไปที่จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหานั้นเป็นใคร แต่เรามีทีมกฎหมาย และที่ปรึกษากฎหมาย ของส่วนรวม และส่วนตัวของแต่ละบุคคล
