นายกฯ ไม่ยืนยันข้อมูล หลังเอกสารลับคลังหลุด ชี้ จีดีพีโตตํ่า 1.8% เผย ขอให้รอ สศค. แถลง
นายกฯ ไม่ยืนยันข้อมูล หลังเอกสารลับคลังหลุด ชี้ จีดีพีโตตํ่า 1.8% เผย ขอให้รอ สศค. แถลงก่อน ยํ้า หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดเวลา ไม่ได้มีแค่ดิจิทัลวอลเล็ต
วันนี้ (24 ม.ค. 67) เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่โฆษกรัฐบาลทำเอกสารการประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2566 และ ปี 2567 ของกระทรวงการคลัง หลุดในกลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล ถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2566 ที่เติบโตเพียงร้อยละ 1.8 เปอร์เซ็นต์
นายเศรษฐา ระบุว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องรอให้สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. แถลงอย่างเป็นทางการก่อน ยังไม่มีการยืนยันข้อมูล และถึงแม้ว่าตนเองจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังการ ตนเองก็ไม่เคยขอเบิกเอกสารอะไรมาดูก่อน ซึ่งทางด้านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก็มีมีอิสระในการทำตัวเลขอยู่แล้ว ต้องให้เกียรติทางผู้อำนวยการ สศค. ด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพิจารณามาตรการอื่นเพื่อเข้ามากระตุ้นหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีการพิจารณาอยู่ตลอดเวลา ตนเองไม่อยากสร้างวาทกรรมใหม่ว่า เศรษฐกิจวิกฤติ หรือไม่วิกฤติ ขอใช้คำว่า “เศรษฐกิจไม่ดี” ดีกว่าคำว่าวิกฤติ เพราะยืนยันตลอดเวลาว่าเศรษฐกิจไม่ดี
ส่วนกรณีที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีวิกฤติ นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นเรื่องของท่านที่พูดไป เป็นความเห็นต่าง เป็นธรรมดาของสังคม
ส่วนตัวเลขอัตราการเติบโตที่ต่ำ และความไม่ชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้เกิดความกังวลจากภาคเอกชน จะเสนอให้ลดอัตราดอกเบี้ย และอยากเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ รัฐบาลคิดเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา และมั่นใจว่าจะมีนโยบายอื่นที่คลอดออกมาด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมย้ำว่า ได้มีการพูดคุยกับ สศค. อยู่ตลอดเวลา เราพูดคุยกันทุกเรื่อง ทั้งเรื่องมาตรการกระตุ้นภาษี และอีกหลายอย่าง
ส่วนที่ขณะนี้ นโยบายการเงินการคลังไม่สอดประสานกัน อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นายเศรษฐา กล่าวว่า มีความเห็นต่างบ้าง แต่เชื่อว่า สศค. และธนาคารแห่งประเทศไทย มีการคุยกันตลอด ความเห็นต่างเป็นธรรมดาของการอยู่ร่วมกัน ส่วนจะให้เห็นด้วยกันได้หรือไม่นั้นต้องพูดคุยกัน ทุกคนมีหน้าที่ ตนเองก็มีหน้าที่หามาตรการกระตุ้นการคลัง
