DSI แถลงส่งสำนวน ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ให้อัยการสูงสุดบ่ายวันนี้ พร้อมยึดทรัพย์กว่า 747 ล้าน
DSI แถลงส่งเอกสารสำนวน ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ กว่า 3 แสนเผ่น รวม 900 แฟ้ม ให้อัยการสูงสุดบ่ายวันนี้ พร้อมยึดทรัพย์สินได้กว่า 747 ล้านบาท จ่อ เอาผิดกลุ่มแม่ข่ายเพิ่มช่วงหลังปีใหม่ และขยายผลยึดทรัพย์เพิ่มก่อนเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
วันนี้ (23 ธ.ค. 67) เวลา 10:00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำโดย พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวส่งสำนวนการสอบสวน พร้อมพยานหลักฐานในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (คดีพิเศษที่ 119/2567) ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล
สำหรับการส่งสำนวนคดีให้อัยการในครั้งนี้ ดีเอสไอใช้รถตู้ 4 คัน ซึ่งมีพยานหลักฐานในคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ที่สามารถรวบรวมสำนวนในคดีได้กว่า 340,000 แผ่น บรรจุอยู่ในลังกระดาษทั้งหมด 900 ลัง และจะนำสำนวนคดีทั้งหมดไปส่งให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษในช่วงเวลา 14:00 ของวันนี้
พันตำรวจตรียุทธนา เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการประชุมคดีว่า จะส่งสำนวนคดีในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ หลังจากใช้ระยะเวลาการสอบสวน 54 วัน ผลการสอบสวน คณะกรรมการสอบสวน มีความเห็นว่า ควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย (บุคคลธรรม 18 ราย นิติบุคคล 1 ราย) ในความผิด 4 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.ก. กู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกงประชาชน(แชร์ลูกโซ่), พ.ร.บ. ขายตรงและตลาดแบบตรง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ส่วนความผิดอาญาฐานฟอกเงิน และความผิดเกี่ยวกับเรื่องภาษี และบัญชี จะมีการแยกไว้สอบสวนอีกกรณีหนึ่ง โดยเอกสารสำนวนที่รวบรวมส่งพนักงานอัยการ มีจำนวนกว่า 340,000 กว่าแผ่น ที่มีการบรรจุใส่ลัง 900 ลัง นำขนขึ้นรถตู้จำนวน 4 คันให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษในช่วงบ่ายของวันนี้
ขณะที่ ทรัพย์สินที่มีการอายัดได้ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป มีจำนวนทั้งหมดกว่า 747 ล้านบาท ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ รถหรู ซึ่งจะมีการทำคำร้องให้พนักงานอัยการ รวมถึงส่งเรื่องไปที่ ปปง. เพื่อให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน และจะทำการเฉลี่ยทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทรัพย์ที่ยึดมาได้มีเพียง 700 กว่าล้านบาท แต่ความเสียหายมีถึงพันกว่าล้านบาทจะมีการสืบทรัพย์เพิ่มหรือไม่ พันตำรวจตรียุทธนา ระบุว่า จะมีการสืบทรัพย์เพิ่ม และจะตรวจสอบบัญชีของผู้ต้องหา รวมถึงเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของสำนวนในขั้นต่อไป ซึ่งจะเร่งดำเนินการในส่วนนี้ก่อน
ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พันตำรวจตรียุทธนา กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา และวิเคราะห์รวบรวมพยานหลักฐานว่าจะมีการกล่าวหาใครเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในช่วงหลังปีใหม่ โดยเป็นผู้ต้องหากลุ่มใหม่ซึ่งจะเป็นกลุ่มของแม่ทีมแม่ข่าย ที่มีลูกทีมเป็นของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่บุคคลที่มีความรู้ในเรื่องของกฎหมาย มีพฤติกรรมไปข่มขู่พยานผู้เสียหาย พันตำรวจตรียุทธนา กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากมีหลักฐานไปถึงก็จะดำเนินคดี
ส่วนที่ผู้ต้องหาจะมีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมนั้น พันตำรวจตรียุทธนา เผยว่า ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง แต่ตอนนี้สำนวนทุกอย่างเป็นที่ยุตติแล้ว ซึ่งทางดีเอสไอมีการสอบสวนตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง และลงมติร่วมกันว่ามีความผิดจริง
ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ขอบคุณทุกหน่วยงาน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาในคดีพิเศษ ตามมาตรา 30 ว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องของการสอบสวน กฎหมาย การบัญชี และเทคโนโลยี และรวมถึงบุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเข้ามาตามพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษทั้ง ปปง. , สำนักงานเขตเศรษฐกิจการคลัง, กรมสรรพากร, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามารับผิดชอบดูแลคดีนี้ และประสานการทำงานกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมาโดยตลอด และรับการแจ้งความจากผู้เสียหาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาให้ดีเอสไอ และพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ