‘ชวน’ ยืนยัน ไม่เห็นด้วย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ไม่ขัดถ้าเป็นมติพรรค ย้ำ ไม่ใช่กับโจรกับพระก็ได้

วันนี้ (23 ส.ค. 67) นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ บอก ไม่แปลกใจกับกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์อาจจะเข้าร่วมรัฐบาล แพทองธาร 1 แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วย เพราะตนเองเป็นคนรณรงค์ให้ภาคใต้ไม่เลือกพรรคไทยรักไทย เพราะเลือกปฎิบัติให้งบประมาณพัฒนาเฉพาะพื้นที่ที่เลือก จนพรรคไทยรักไทยไม่ได้คะแนนเสียงเลย วันหนึ่งตนจะกลับลำมาสนับสนุนก็จะเหมือนทรยศประชาชน

แต่หากประชาธิปัตย์มีมติจะเข้าร่วมรัฐบาล ตนก็คงต้องเคารพมติพรรค แต่ส่วนตัวมีความเห็นว่าไม่ควรร่วม แต่ถ้าแพ้ก็เป็นเรื่องมติพรรคไป ส่วนหากมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนเองคงต้องดูตามข้อเท็จจริง เช่น ถ้าทำงานดี ไม่โกง ก็ควรจะสนับสนุน แต่ถ้าโกง โดยทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไม่รับ โดยทั่วไปก็ปฎิบีติกันแบบนั้น

ส่วน กรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า สส. ในพรรคมีคนที่พูดเก่งอาจทำงานไม่ค่อยเก่ง กับคนที่พูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่งนั้น นายชวน แสดงความคิดเห็นว่าเป็น สส. มานาน ไม่เคยได้ยิน เขาแบ่งแยก สส.แบบนี้ เคยได้ยินแต่โกงมาก โกงน้อย ฟังๆ ดูก็เหมือนกับเป็นการฟอกตัวเอง ในทำนองว่าในสภา ไม่ได้พูดไม่ได้ทำไร เพราะพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง ก็ไม่รู้ว่าทำงานอะไร ในพรรคเท่าที่ดู คนพูดเก่งเขาก็ทำงานดี เช่นนายจุรินทร์ เป็นต้น

นายชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง ทุกคนก็อยากไปร่วมรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนพรรคอื่นในบางเรื่อง เช่น อุดมการณ์ในการร่วมกับใคร ไม่ใช่กับโจรก็ได้ กับพระก็ได้ เพราะเรายึดความซื่อสัตย์ สุจริต คิดเรื่องหลักการณ์ และคิดทำให้พรรคใหญ่ ไม่ใช่คิดว่าแค่นี้พอแล้ว มีรัฐมนตรี 2-3 คน แล้วทำให้พรรคใหญ่มันไม่ใช่ การทำงานไม่ได้หมายความว่า เป็นฝ่ายค้านแล้วทำประโยชน์ไม่ได้ โดยยกตัวอย่าง ถึงการเปิดโปงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่เป็นฝีมือ นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม และ นายถาวร เสนเนียม ที่เป็น สส.ประชาธิปัตย์ ขณะนั้น

ตรงกันข้ามเป็นรัฐบาล ทำงานตามปกติ แต่โกง ทุจริต ประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์ มันอยู่ที่การประพฤติปฎิบัติอย่างไร อย่าไปเข้าใจผิด ความอยากเป็นรัฐบาลก็ต้องบอกตรงๆ อยากเป็นรัฐบาล เพื่อทำงานอันนี้ไม่แปลก ไม่เสียหายอะไร แต่จะไปบอกว่า เป็นฝ่ายค้านไม่ได้ประโยชน์มันไม่ถูกต้อง

นายชวน ย้ำว่า เลือกตั้งทุกครั้งได้มาด้วยเสียงบริสุทธิ์ เป็นความภูมิใจ ที่สำคัญ พรรคมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เคยมีใครมาพูดถึงพรรค ว่าเป็นอะไหล่ เป็นพรรคคอยเข้าไปเสียบ ไม่เคยมีใครมาด่า ถึงขอร้องสื่อ แยกให้ออก ว่าพวกที่จะอยากเสียบเป็นตัวบุคคล พรรคไม่ได้เป็นแบบนั้น คนที่จะคิดเข้าไปเป็นอะไหล่เขามีจริง แต่ไม่ใช่ทั้งพรรค

ส่วนสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ระหว่างร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมแบบใดดีกว่ากันนั้น นายชวน ยืนยันว่า เห็นว่าไม่ร่วมมาตั้งแต่ต้น ส่วนที่มีกระแสว่าถ้าร่วมสมัยหน้าอาจจะสูญพันธ์ ก็ต้องถามหัวหน้าพรรค กับเลขาธิการพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าที่พรรคเป็นแบบนี้เพราะอะไร ตนตอบไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่ง ตนยังคงเดินช่วยหาเสียงตลอด แต่พรรคไม่มีบทบาทอะไรเลย ศูนย์เลือกตั้งก็ไม่มี เลขาธิการพรรคก็ไม่ลงเลือกตั้ง สถานการณ์มันเปลี่ยน ก็เสียดาย ขณะนายจุรินทร์ ก็เป็นคนเก่ง แต่ได้รับการยอมรับน้อย

ยอมรับว่าโอกาสที่จะได้ สส. ระบบบัญชีรายชื่อยังมีโอกาส แต่สำหรับเขตไม่สามารถประพยากรณ์ได้ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป ทรรศนะของ สส. และ ประชาชนเปลี่ยนเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ภาคใต้ที่บอกไม่เคยซื้อเสียงก็เปลี่ยนไป คือความจริงที่ต้องยอมรับ