‘ชัยชนะ’ เผย พร้อมน้อมรับผล หลังโหวตสวนมติพรรค ชี้ ไม่ใช่งูเห่า เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่
วันนี้ (23 ส.ค. 66) ที่อาคารรัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีการโหวตสวนมติพรรค เห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นว่าที่นายกฯ เมื่อวานนี้ว่า ไม่ได้กลัวตกขบวน แต่ในการประชุมพรรคได้หารือกันเมื่อวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. ก็มีทั้ง 3 ความเห็น คือ เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง โดยได้ข้อสรุปว่ามีมติเป็นงดออกเสียง
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวานนี้ (22 ส.ค. 66) นั่งรับฟังการอภิปรายจาก สว. และ สส. เรื่องข้อสงสัยของนายเศรษฐา ว่าเป็นมาอย่างไร มีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ฟังแล้วคิดว่าไม่มีน้ำหนัก และไม่มีปัญหาในการเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ และจากการสอบถามพี่น้องประชาชนก็พบว่า อยากหาทางออกให้กับประเทศ อยากได้นายกฯ คือนายเศรษฐา ที่ไม่แก้ไขมาตรา 112
“จุดยืนของเพื่อไทยชัดเจนว่าไม่แก้ไข ม.112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชองประชาชน โดยการเลือกตั้งล่วงเลยมา 90 วันแล้ว เราจำเป็นต้องหาทางออกให้ประเทศเดินหน้าให้ได้ ไม่งั้นประชาชนจะเจ็บที่สุด” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ ระบุว่า สส. ทั้ง 16 คนที่โหวตเห็นชอบ เราตัดสินใจชั่วโมงสุดท้าย และยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล เราพร้อมทำงานทั้ง 2 หน้าที่ ไม่ใช่ว่าโหวตแล้วจะได้ขึ้นขบวนรถไฟ
นายชัยชนะ ยืนยันว่า ไม่ได้ดีลหรือคุยกับใคร และไม่ได้คุยกับพรรคเพื่อไทย ส่วนที่ พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ ออกมาบอกว่ามติพรรคเป็นงดออกเสียงนั้น ได้อยู่ในที่ประชุมหรือไม่ ไปเปิดบันทึกการประชุมดูได้ ซึ่ง สส. ส่วนใหญ่มีความเห็นแบบนี้ และช่วงก่อนโหวตเรียกประชุมใหญ่ไม่ทัน จึงประชุมในกลุ่มเพื่อน ไม่ได้คุยกับทางนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายชวน หลีกภัย เนื่องจากไม่มีเวลา รู้ดีกว่าการปฏิบัติผิดต่อมติพรรคจะเกิดอะไรขึ้น เราน้อมรับในคำตัดสิน และการตรวจสอบ ยินดีให้ตั้งคณะกรรมการสอบ ยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจในการบอกเหตุผลที่ทำแบบนี้ ตอนนี้ต้องยอมรับให้ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสวนมติพรรค สิ่งที่ผมกับเพื่อนทำเมื่อวาน ผมน้อมรับผลอยู่แล้ว ซึ่งเสียงในสภาก็โหวตเป็นเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ
“เราไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ของใคร ผมยืนยันอยู่เสมอว่า การที่โหวตเมื่อวานไม่ได้ร่วมรัฐบาล เราพร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน และจะทำหน้าที่ให้เต็มที่ที่สุด และที่สำคัญผมไม่ใช่งูเห่า การเป็นงูเห่าต้องมีจำนวนน้อย แต่ผมไปเพราะเสียงข้างมาก เราคุยกันในพรรค และเสียง สส. ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ผมไม่เคยให้ร้ายต่อพรรคนี้ ไม่เคยทำให้พรรคเสียหาย ผมยึดมั่นอยู่ในพรรคมาตลอด ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่การตีเช็คเปล่า เพราะเราไม่ได้อะไร ส่วนจะชวนทำงานร่วมกันหรือไม่ ก็เป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่เกิดขึ้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ และมติของพรรคในครั้งต่อ ๆ ไป ก็ต้องกลับไปถามกรรมการบริหารพรรค แม้จะเป็นรักษาการ แต่ก็มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจร่วมรัฐบาล