‘มงคล สุรัจสัจจะ‘ แสดงวิสัยทัศน์ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา
ชวนสมาชิกจับมือเป็นหนึ่งเดียวขับเคลื่อนสภาสามัญชน-แก้ รธน. เห็นต่างได้แต่ต้องไม่แตกแยก เผยชีวิตมาจากก้อนดิน ไม่มีเส้นสายพร้อมทำหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดินจนกว่าชีวิตจะหาไม่
วันนี้ (23 ก.ค.67) การประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ภายหลังที่ประชุมได้เสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา นายมงคล สุรัจสัจจะ ซึ่งพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ได้แสดงวิสัยทัศน์โดยขอบคุณสมาชิกที่เสนอชื่อตนเอง พร้อมระบุว่า นับตั้งแต่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่งปลัดอำเภอ ตนเองสำนึกว่าแผ่นดินนี้ได้ให้โอกาสมากมาย จึงตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศชีวิตและปฎิบัติหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดินรับใช้ประชาชน รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยยึดมั่นมาตลอดว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจนกว่าชีวิตจะหาไม่
สำหรับเหตุผลการสมัครสมาชิกวุฒิสภา เพราะหวังว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน รับใช้ประชาชนแก้ปัญหาของคนในชาติที่อยู่ในช่วงเวลาวิกฤต นับตั้งแต่วันนี้ตนเองจะตั้งใจทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้วางไว้ เชื่อว่าวุฒิสภาคนอื่นก็มีความตั้งใจไม่ต่างจากตนเอง
การปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ตนเองต้องการให้ประเทศไทยและคุณภาพชีวิตของคนไทยไปสู่สิ่งที่ดีกว่าและดีขึ้นในทุกมิติ ซึ่งการทำงานของวุฒิสภาโดยมีประชาชนเป็นเป้าหมายอย่างตรงไปตรงมาจะนำไปสู่สิ่งนั้นได้ จึงอยากเห็นสังคมไทยและคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน เห็นต่างได้แต่ต้องไม่สร้างความแตกแยก เราจะเริ่มต้นจากความเป็นหนึ่งเดียวของวุฒิสภา
วุฒิสภาเป็นองค์กรด้านนิติบัญญัติและเป็นองค์กรสำคัญที่จะพาสังคมไทยเดินหน้าไปด้วยสันติวิธี รวมถึงการมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่เหมาะสม สอดคล้องกับคนไทยและราชอาณาจักรไทยอย่างแท้จริง เป็นภารกิจของพวกเราในฐานะสมาชิกวุฒิสภา โดยทั้งวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไทยก็เกิดขึ้นในประเทศอื่นด้วย อย่าหวังให้ใครมาช่วยเรา คนไทยต้องช่วยกัน
“ชีวิตผมมาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นเด็กวัดเรียนอาชีวะ จึงเข้าใจความยากจนข้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นไม่มีสาย ผมเติบโตมาในระบบราชการด้วยการทำงานอย่างหนัก เต็มความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการประสานงานกับพี่น้องประชาชน คลุกคลีกับพี่น้องประชาชนทั้งในชนบทตลอดชีวิต เกษียณอายุราชการก็ไปทำไร่ในชนบท“
นายมงคล กล่าวต่อว่าทราบดีถึงความรู้สึกของสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงเข้าใจปัญหาเพราะมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีเพื่อนอยู่ทุกหมู่เหล่า เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำงานร่วมกับทุกคนได้ วุฒิสภาชุดปัจจุบันใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่เป็นครั้งแรกที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ปฏิรูปให้เป็นสภาของคนทุกหมู่เหล่า แบ่งเป็น 20 กลุ่มอาชีพ เป็นครั้งแรกที่วุฒิสภาเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาทำหน้าที่แทนกลุ่มอาชีพของตนเอง ประชาชนเข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน จึงขอให้ทุกท่านรักษาไว้
หากตนเองได้รับเลือกเป็นประธานประธานวุฒิสภา จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับ ตลอดจนธรรมเนียมปฏิบัติทางนิติบัญญัติอย่างเต็มสติปัญญา เต็มความรู้ความสามารถ เพื่อรับใช้และอำนวยความสะดวกให้แก่การปฎิบัติหน้าที่ของสมาชิก พร้อมประสานงานให้เป็นเนื้อเดียวกันโดยเร็วที่สุด ชวนทุกคนมาช่วยงานและเดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อให้วุฒิสภาบรรลุผลความเป็นสภาของสามัญชน เพื่อให้เป็นสภาที่ประนอมอำนาจดับวิกฤตของสังคมไทย