‘พริษฐ์’ เรียกร้อง ส.ว. เลือก ‘พิธา’ เป็นนายกฯ หลังรวมเสียงได้ 313 เสียง

‘พริษฐ์’ เรียกร้อง ส.ว. เลือก ‘พิธา’ เป็นนายกฯ หลังรวมเสียงได้ 313 เสียง เชื่อเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และเป็นการเคารพเสียงประชาชน โดยขอให้ยึดหลักการยกมือให้เสียงข้างมาก เหมือนตอนโหวตให้ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เมื่อปี 62
วันนี้ (23 พ.ค. 66) พริษฐ์ วัชรสินธุ์ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคก้าวไกลว่า พรรคก้าวไกลได้ให้ความชัดเจน 2 เรื่องคือ 1. การลงนาม MOU ร่วมกัน 8 พรรคการเมือง 313 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มี ส.ส.เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และ 2. การลงนามร่วมกันว่า ประเด็นวาระขั้นต่ำที่นำเสนอผ่าน MOU มีอะไรบ้าง
โดยพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับจำนวนเสียงสนับสนุนที่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล หากต้องการให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น ขอเรียกร้องให้ ส.ว. ออกมายืนยันว่า พร้อมจะเคารพเสียงข้างมากของประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและพรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามหลักประชาธิปไตยสากล
“…เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ทำให้ทุกคนมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลและแสดงความพร้อมที่จะพูดคุย ชี้แจง คลายข้อกังวลที่ส.ว.บางคนอาจจะมี โดยย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ต้องการเรียกร้องให้ ส.ว.ต้องชื่นชอบพรรคก้าวไกลเป็นการเฉพาะ แต่ขอเพียงเคารพ เสียงของประชาชน…” พริษฐ์ กล่าว
พริษฐ์ ยังอ้างถึงเหตุผลที่ ส.ว.เคยโหวตพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 เพราะพลเอกประยุทธ์ รวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภา จึงขอให้ยึดหลักการเดิมที่ ส.ว.เคยให้ไว้ โดยเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลผสมที่มี 8 พรรคการเมืองโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ