POLITICS

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมการพัฒนา กทม. ชม ‘ชัชชาติ’ ทำดี แต่ต้องประชาสัมพันธ์เพิ่ม

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุมการพัฒนา กทม. ชม ‘ชัชชาติ’ ทำดี แต่ต้องประชาสัมพันธ์เพิ่ม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา กทม. พร้อมให้กำลังใจ จนท. ทุกคน

วันนี้ (23 ก.พ.67) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รายงานสรุปผลการพัฒนา

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ กทม. มีรถติดเพราะเป็นพื้นที่เป็นคอขวดเยอะ มีการใช้รถเยอะมาก ต้องกวดขันวินัยจราจรอย่างเคร่งครัด โดยมีแผนการทำทางเท้าเพิ่มขึ้น ทำวินมอเตอร์ไซค์ที่จะควบคุมทั้งเรื่องราคาและความปลอดภัย ส่วนเรื่องฝุ่น PM2.5 สาเหตุมาจากไอเสียรถ และการเผาในที่โล่ง เราได้ทำแคมเปญให้คนจูงใจมาเปลี่ยนใช้รถสาธารณะ ถ่ายน้ำมันเครื่อง และลดการเผาโดยซื้อเครื่องอัดฟางให้ใช้ฟรี 3 เครื่อง เป็นแรงจูงใจลดการเผา มองว่า นโยบายรัฐบาลถูกทาง แต่คุมเพื่อนบ้านลำบาก ทั้งนี้ เรายังคาดเดาฝุ่นได้ค่อนข้างดีในอนาคตถึง 3 วัน จึงประกาศ WFH ได้ ลดสถานการณ์วิกฤติในตอนนั้นได้ รวมถึงการศึกษาการย้ายท่าเรือคลองเตย เพื่อคืนพื้นที่สีเขียว ลดการจราจรลง

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ยังมีโครงการย่อย ทำสวน 15 นาที มีหลายจุด กระจายอยู่ทั่ว กทม. ให้ประชาชนเข้าถึงสวนได้มากขึ้น แก้ปัญหาแท็กซี่ เรื่องจราจร คมนาคม โกงราคานักท่องเที่ยว เดี๋ยวจะประสานงานลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเพิ่มเติม และเรื่องหาบเร่แผงลอย ทำให้ผู้ค้ามีที่ขายถูก ราคาไม่แพง อุปสงค์ อุปทานตรงกัน หากหาพื้นที่เพิ่มได้ ก็จะช่วยให้เรื่องนี้ดีขึ้น ทำให้เป็น hawker centers ซึ่งเราต้องขอความร่วมมือขอที่ดินให้ดำเนินการในส่วนนี้ และเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กที่มีการใช้สูงขึ้น ต้องเร่งรัดอย่างจริงจัง รัฐขอให้มีมาตรการ กฎหมาย และสื่อต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง จะเร่งขุดลอกคลอง เปิดทางน้ำไหล เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม

ด้านนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองรู้สึกยินดีและ เป็นเกียรติที่ได้มาเยือน กทม. อย่างเป็นทางการครั้งแรก แม้เราจะพยายามกระจายคความเจริญไปต่างจังหวัด แต่เลี่ยงไม่ได้ว่า กทม. เป็นประเทศเล็ก ๆ ซึ่งนโยบายหรือแผนพัฒนาที่นายชัชชาติ กล่าวก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ตนเองได้แถลงไปเมื่อวานนี้ โดยมองว่าที่ทำอยู่ก็ดีมากแล้ว แต่ขาดการสนับสนุนที่อาจช้าไป หรือไม่รวดเร็วทันใจ ครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีและขอมอบหมายให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานและเน้นย้ำว่าจะต้องมีการ ประชาสัมพันธ์ที่มากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องการลอกท่อ ลอกคลอง ตอนนี้หน้าร้อน มีเวลา 2-3 เดือนก่อนฝนตก โดยทางกองทัพให้ความมั่นใจเต็มที่ว่าจะช่วย เมื่อสักครู่เห็นเครื่องเก็บผักตบชวา ที่จะกินพื้นที่ทางน้ำเกือบทั้งหมด ซึ่งจะต้องของบประมาณครั้งใหญ่มองว่าเราปล่อยประละเลยเรื่องนี้มานานแล้ว จึงอยากให้ทางกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายความมั่นคง เข้ามาช่วยเหลือ โดยพูดคุยในรายละเอียดเชิงลึก และต้องวางไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ว่าจะให้หน่วยงานของทหารเข้ามาช่วยในส่วนไหน

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนเรื่องจราจร จะประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ทำดีขึ้น แต่การสื่อสารของเราอาจจะยังด้อย ในหลายประเทศรถก็ติด แต่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไม่พัฒนาเรื่องนี้ และปัญหาเรื่องแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เราต้องเห็นใจเขาเหมือนกัน บางครั้งรถติด อาจทำให้ไม่ได้เงิน เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมก็ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา ให้เป็นไปตามกลไกอย่างแท้จริง ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องผลักดันให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางธรรม เราเป็นรัฐบาลเดียวกัน ทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้คนที่มาท่องเที่ยว ตั้งแต่ก้าวแรกจนก้าวสุดท้าย มีความประทับใจ

ส่วนเรื่อง PM2.5 เป็นเรื่องสำคัญที่จะประกาศ Work from Home (WFH) ต้องดูแต่ละจุด ถ้าเห็นแล้วก็ประกาศได้ เชื่อว่ารัฐจัดการได้ดีในทุกภาคส่วนอยู่แล้ว ถ้า กทม. ช่วยได้อีกจะเป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนเพื่อนบ้านเราก็มีสายตรงกับทางกัมพูชา ซึ่งเขามีขีดจำกัดทั้งเทคโนโลยี และอื่น ๆ

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินตรวจแถวเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้พร้อมกล่าวมอบนโยบาย ว่า กรุงเทพมหานครคือมหานครที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ เป็นศูนย์กลางการปกครอง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น วิจิตรสวยงามมากมาย ตลอดจนถนนข้าวสาร ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของชาวต่างประเทศ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมกรุงเทพมหานคร ถูกจัดให้เป็นจุดหมายปลายทางที่นิยมชมชอบมากที่สุดในทวีปเอเชีย และเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวค้นหามากที่สุด รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนากรุงเทพให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ในทุก ๆ ด้าน โดยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ระดมความคิดจากทุกขุมกำลัง ทุกหน่วยงาน มาช่วยกันสร้างกรุงเทพให้ดีกว่าเดิมได้ดียิ่งขึ้น ทั้งการจัดสรรสาธารณูปโภคพื้นฐาน การก่อสร้างรถไฟฟ้า การจัดการด้านเศรษฐกิจ และสังคม เพื่อสร้างความปลอดภัย และชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคน

“ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้มาพบกับทุกท่าน ผมรู้สึกถึงความตั้งใจผ่านแววตาของทุกคน ผมทราบว่าทุกคนปฏิบัติหน้าที่ได้ดีแค่ไหน เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาในยามที่กรุงเทพต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ โรคโควิด-19 ระบาด ฝุ่นพิษปกคลุมท้องฟ้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งระดมพลังจากเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ต่าง ๆ ให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างดี ผมขอขอบคุณคณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกภาคส่วน ที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนากรุงเทพ ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างตลอดมา พร้อมทั้ง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถขับเคลื่อนการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ทำให้เศรษฐกิจกรุงเทพขยายโตต่อเนื่อง เป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ น่าอยู่ น่าเที่ยวต่อไป” นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend