POLITICS

‘พิธา’ ยืนยัน ‘ก้าวไกล’ จะแก้ไข ม.112 เป็นวาระเฉพาะของพรรค ไม่หวั่น ปมถือหุ้นสื่อ

‘พิธา’ ชี้ MOU เป็นเพียงกรอบการทำงาน ยืนยัน ‘ก้าวไกล’ จะแก้ไข ม.112 แต่เป็นวาระเฉพาะของพรรค ไม่หวั่น ปมถือหุ้นสื่อ อยากให้ประชาชนมั่นใจ ด้าน ‘ชลน่าน’ ยืนยันรอบที่ 501 ร่วมรัฐบาล ’ก้าวไกล’ ไม่มีดีลลับฮ่องกง

วันนี้ (22 พ.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำจากพรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล ตอบคำถามสื่อมวลชนภายหลังลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) ในการจัดตั้งรัฐบาล

นายพิธา ระบุว่าการแก้ไข ม.112 พรรคก้าวไกลยังยืนยันที่จะทำ โดยปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปเยอะ ทุกสำนักข่าวพูดถึงเรื่องนี้อย่างมีวุฒิภาวะ การอำนวยความยุติธรรมให้ผู้เห็นต่าง หรือการนิรโทษกรรม เรามีความพยายามที่จะพูดคุยกัน แต่ตัดสินใจให้เป็นวาระเฉพาะของพรรค

“ความรับผิดชอบร่วมกันของแต่ละพรรค ยังมีวาระร่วมที่แต่ละพรรคต้องนำเสนอ ซึ่งมีโอกาสผลักดันนโยาบยเพิ่มเติม ผ่านฝ่ายบริหารและผ่านอำนาจราษฎร และยืนยันว่าจะต้องทำงานอย่างซื่อสัตย์ตามข้อตกลง”

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงนามในข้อตกลงระบุว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ไม่ได้ระบุว่าจะทำอย่างไร นายพิธา ระบุว่า MOU นี้เป็นกรอบในการทำงานของแต่ละพรรคที่จะทำงานร่วมกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้โปร่งใสในตอนนี้ และจะไปต่อในอนาคต

นายพิธา ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลว่า ตนเองในฐานะเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล เคยทำงานร่วมกันมา 4 ปี และเริ่มทำงานด้วยกันมา 1 สัปดาห์ มีความหนักแน่น ไม่ว่าจะมีข่าวหรืออะไรที่ทำให้สั่นคลอน พวกเรายังทำงานกันด้วยความเคารพและให้เกียรติกัน

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะถูกยุบ และส.ส.จะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยรับรู้ ยืนยันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ พร้อมยืนยันเป็นครั้งที่ 501 ว่ายังยึดมั่นในเจตนารมย์ที่ประกาศไว้ว่าจะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และทำให้พรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล

ส่วนเรื่องกระแสการดีลลับที่ฮ่องกงจะสร้างความระแวงให้พรรคร่วมหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า เรื่องดีลลับสามารถเล่าลือได้ แต่ยืนยันตรงนี้ว่าเพื่อไทยยังยึดมั่นในเจตนารมณ์ของประชาชน และสนับสนุนก้าวไกล

เมื่อถามต่อถึงการโหวตเลือกตั้ง นายกฯ ที่อาจได้เสียง ส.ว.ไม่ถึง นายพิธา ระบุว่าพรรคก้าวไกลได้รับความช่วยเหลือจากแกนนำหลายพรรค แต่เราต้องเป็นตัวแทนในการเจรจาพูดคุยเอง และข่าวที่ว่านายพิธา จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปพร้อมกับตำแหน่งนายกฯ นั้น ต้องดูความสามารถของคนในแต่ละหน่วยงาน ซึ่งตามหลักต้องหาคนที่เหมาะสมกับงานมาทำตามตำแหน่งอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าโซเชียลมีเดีย มีผลต่อเสถียรภาพการทำงานของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา ระบุว่า พรรคไม่ได้อยู่แค่ในโซเชียล แต่ก็ต้องคำนึงถึงประชาชน จึงเลือกฟังทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

ทั้งนี้ นายพิธายังยืนยันถึงกรณี การร้องเรียนเรื่องถือหุ้นสื่อว่า ไม่ต้องกังวลใจ คำร้องจาก กกต. ยังไม่มี ตนเองอธิบายไปหลายครั้งแล้ว มีหลักฐานและหลักกฎหมายชี้แจงไว้แล้ว อยากให้สังคมเข้าใจ

Related Posts

Send this to a friend