‘ธรรมนัส’ หวังปักหมุด พปชร.ภาคเหนือ ถาม “เศรษฐา” มีอำนาจตัดสินใจหรือ ประกาศไม่จับมือ
วันนี้ (22 เม.ย.66) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการเลือกตั้งในภาคเหนือ ว่า เรามียุทธศาสตร์ อยากปักหมุดทุกจังหวัด อย่างน้อยขอให้ได้ทุกจังหวัด 1-2 เขต ส่วนจังหวัดพะเยา เรามีความมั่นใจอยู่แล้วว่าจะยกจังหวัด และน่าจะได้ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ ตนเองจะลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่หาเสียงที่ภาคใต้ในปลายเดือนเมษายนนี้พร้อมกัน พรรคพลังประชารัฐมีแผนปราศรัยใหญ่ที่ จังหวัดสงขลาในวันที่ 28 เมษายน และจังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 29 เมษายน
สำหรับการไปลงพื้นที่ภาคใต้พร้อมกันทั้งสองลุงจะ มันเป็นเรื่องการเมือง อย่าไปมองเป็นประเด็นอื่น เพราะแผนเราทำไว้นานแล้ว เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่จะต้องแข่งกันเองกับคนของพรรคพลังประชารัฐที่ออกไป ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า น้ำเก่าออกไป แต่น้ำใหม่มีคุณภาพกว่า มั่นใจว่าเราจะชนะ และจะได้เพิ่มอีกหลายจังหวัด เช่นจังหวัดพังงา ที่ไม่เคยมี ส.ส. มั่นใจว่าจะปักหมุดได้ ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช หลับตาก็มองเห็น อย่างเขต 1 ของนายรงค์ บุญสวยขวัญ กรรมการบริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส. พลเอกประวิตรสั่งระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วย ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้อีกทาง โดยเขต 1 ผ่านแน่นอน เขต 2 ของนายสุภาพ ขุนศรี ผู้สมัคร ส.ส.ก็ผ่าน ส่วนเขต 5 ของนายสุธรรม จริตงาม ผู้สมัคร ส.ส. ถือเป็นเต็งหนึ่ง รวมถึงเขต 3 ของนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ผู้สมัคร ส.ส. ดังนั้นเราไม่แพ้ใครแน่นอน ทั้งนี้ หลังจากหาเสียงที่ภาคใต้แล้ว วันที่ 30 เมษายน จะไปปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้นวันที่ 1 พฤษภาคมจะไปปราศรัยที่จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อถามว่ามีโพลออกมาว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ 70 ที่นั่ง ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า อย่างเกรดเอบวก รวมกันก็ได้เกือบ 100 ที่นั่ง มั่นใจส่า ส.ส.แบบแบ่งเขตที่เคยได้เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 เกือบจะทุกจังหวัด เราสามารถรักษาพื้นที่ได้ ถึงแม้คนที่เป็น ส.ส.เก่าจะย้ายไปพรรคอื่น แต่เราก็หาคนใหม่มาลง มั่นใจว่าจะยึดพื้นที่ได้
ทั้งนี้หลายสำนักที่คาดการณ์ตัวเลขพรรคพลังประชารัฐกับพรรคที่เคยร่วมรัฐบาลกันมาจะได้สูสี หากเป็นรองคงเป็นรองพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย หรือจะอาจจะสูสีกับพรรคภูมิใจไทย ส่วนกับพรรคอื่นเราอาจจะได้มากกว่า เมื่อถามว่ายังยืนยันจะจับมือร่วมรัฐบาลหลังจากการเลือกตั้งใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องรอผลการเลือกตั้ง ฉะนั้น หลายพรรคที่ออกมาปฏิเสธไม่จับมือ แล้ววันหนึ่งอยากเป็นรัฐบาล ผิดคำพูดตนเองต่อสาธารณะ ในทางสังคมการเมืองก็จะไม่เหมือนเดิม อยากฝากหลายพรรคที่ออกมาประกาศไม่จับมือกับคนนั้นคนนี้ มันยังไวเกินไป
เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือกับรวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ เท่ากับการปิดประตูใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ต้องถามว่าคนที่ออกมาพูดเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ เรื่องของพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคในการตัดสินใจ
เมื่อถามว่าร้อยเอกธรรมนัสจะเป็นตัวประสานในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า คงต้องช่วยกัน รับนโยบายของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ก่อนปิดหีบ 17.00 น. ก็รู้แล้วว่าใครจับมือกับใคร